ผู้เขียน หัวข้อ: หมอประจำบ้าน: ผมร่วงจากยาและการฉายรังสี  (อ่าน 20 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 472
    • ดูรายละเอียด
หมอประจำบ้าน: ผมร่วงจากยาและการฉายรังสี
« เมื่อ: วันที่ 16 กรกฎาคม 2025, 01:01:52 น. »
หมอประจำบ้าน: ผมร่วงจากยาและการฉายรังสี

แน่นอนครับ ผมร่วงจากการใช้ยาบางชนิดและการฉายรังสีเป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อย โดยเฉพาะในการรักษามะเร็ง ซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก

ผมร่วงจากยา (Drug-Induced Hair Loss)

ยาหลายชนิดสามารถทำให้เกิดผมร่วงได้ โดยกลไกการออกฤทธิ์ของยาจะไปรบกวนวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม อาการผมร่วงจากยามักจะเป็นแบบชั่วคราวและผมจะงอกกลับมาใหม่หลังจากหยุดยาไปแล้ว แต่ระยะเวลาการฟื้นตัวอาจแตกต่างกันไป


ประเภทของยาที่มักทำให้ผมร่วง:

ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy Drugs):

สาเหตุหลัก: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดและรุนแรงที่สุดของการผมร่วงจากยา

กลไก: ยาเคมีบำบัดถูกออกแบบมาเพื่อฆ่าเซลล์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงเซลล์มะเร็ง แต่ก็ส่งผลกระทบต่อเซลล์ปกติที่แบ่งตัวเร็วเช่นกัน เช่น เซลล์ในรูขุมขนที่สร้างเส้นผม ทำให้ผมเข้าสู่ระยะหยุดการเจริญเติบโตและหลุดร่วงอย่างรวดเร็ว

ลักษณะผมร่วง: มักจะร่วงทั่วศีรษะ ร่วงเร็วและรุนแรง อาจร่วงจนหมดศีรษะ รวมถึงขนคิ้ว ขนตา และขนตามร่างกาย

การฟื้นตัว: ผมมักจะเริ่มงอกใหม่หลังจากสิ้นสุดการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดประมาณ 1-3 เดือน แต่เส้นผมที่งอกใหม่ในช่วงแรกอาจมีลักษณะที่แตกต่างไปจากเดิม เช่น สีผมเปลี่ยนไป, ผมหยิกขึ้นหรือตรงขึ้น

ยาต้านมะเร็งชนิดออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจง (Targeted Therapy) และยากลุ่มภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy):

แม้จะไม่ได้ทำให้ผมร่วงรุนแรงเท่าเคมีบำบัด แต่ยาบางชนิดในกลุ่มนี้ก็อาจทำให้ผมร่วงได้เช่นกัน โดยมักจะเป็นแบบผมบางลง หรือผมร่วงเป็นหย่อมๆ

กลไกและผลกระทบขึ้นอยู่กับชนิดของยา

ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคอื่นๆ:

ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: เช่น Warfarin, Heparin

ยาควบคุมความดันโลหิต: เช่น Beta-blockers (บางชนิด), ACE inhibitors

ยาต้านอาการซึมเศร้า: โดยเฉพาะกลุ่ม Tricyclic antidepressants, SSRIs

ยาคุมกำเนิด หรือยาฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนอย่างรวดเร็ว

ยากันชัก: เช่น Valproic acid

ยาสำหรับโรคเกาต์: เช่น Allopurinol

ยารักษาสิว: เช่น Retinoids (วิตามินเอสังเคราะห์) ที่ออกฤทธิ์เป็นระบบ

ยาสำหรับไทรอยด์: ทั้งยาที่ใช้ในภาวะไทรอยด์ทำงานเกินและขาด

วิตามินเอในปริมาณสูงเกินไป:


การดูแลและจัดการ:

ปรึกษาแพทย์: หากสงสัยว่ายาที่ใช้อยู่เป็นสาเหตุของผมร่วง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ แพทย์อาจพิจารณาปรับขนาดยา เปลี่ยนยา หรือให้คำแนะนำในการจัดการ

การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ: ใช้แชมพูและครีมนวดที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงการทำเคมีหรือใช้ความร้อนกับเส้นผม

การใช้อุปกรณ์ช่วย: เช่น วิกผม, ผ้าคลุมศีรษะ, หมวก เพื่อเพิ่มความมั่นใจ


ผมร่วงจากการฉายรังสี (Radiation-Induced Hair Loss)

การฉายรังสีเป็นการรักษามะเร็งเฉพาะจุดที่ใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง ผมร่วงจากรังสีจะเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณที่ได้รับการฉายรังสีเท่านั้น


ลักษณะของผมร่วงจากการฉายรังสี:

ร่วงเฉพาะจุด: ผมจะร่วงเฉพาะบริเวณหนังศีรษะที่อยู่ในแนวการฉายรังสีเท่านั้น ไม่ได้ร่วงทั้งศีรษะเหมือนยาเคมีบำบัด


ความรุนแรงขึ้นอยู่กับปริมาณรังสี (Dose):

ปริมาณรังสีต่ำ: ผมอาจบางลง หรือร่วงเป็นหย่อมเล็กๆ และมักจะงอกกลับมาได้เกือบปกติ

ปริมาณรังสีปานกลาง: ผมอาจร่วงหมดในบริเวณที่ได้รับรังสี และอาจงอกกลับมาใหม่ได้แต่ไม่หนาเท่าเดิม หรือมีลักษณะเส้นผมเปลี่ยนไป

ปริมาณรังสีสูง: การทำลายรากผมอย่างถาวร อาจทำให้ผมไม่สามารถงอกกลับมาใหม่ได้เลยในบริเวณนั้น (เป็นศีรษะล้านถาวร)

เริ่มร่วง: มักจะเริ่มร่วงประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังจากการฉายรังสีเริ่มขึ้น

การฟื้นตัว: หากผมจะงอกกลับมาใหม่ มักจะเริ่มงอกประมาณ 2-3 เดือนหลังสิ้นสุดการรักษา แต่ลักษณะเส้นผมอาจแตกต่างไปจากเดิม (เช่น ผมหงอกเร็วขึ้น, ผมหยิกขึ้นหรือตรงขึ้น, สีผมเปลี่ยนไป) และความหนาแน่นอาจไม่เท่าเดิม


การดูแลและจัดการ:

ดูแลหนังศีรษะอย่างอ่อนโยน: ใช้แชมพูอ่อนโยน, หลีกเลี่ยงการเสียดสีรุนแรง, ไม่ควรทำเคมีหรือใช้ความร้อนกับผม

ป้องกันแสงแดด: หนังศีรษะที่บอบบางหลังการฉายรังสี ควรได้รับการปกป้องจากแสงแดดด้วยหมวกหรือผ้าคลุม

ปรึกษาแพทย์: แพทย์จะเป็นผู้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับโอกาสที่ผมจะกลับมางอกใหม่ และวิธีดูแลรักษาที่เหมาะสม

โดยรวมแล้ว: ผมร่วงจากการใช้ยาและการฉายรังสีมักเป็นผลข้างเคียงที่คาดการณ์ได้ในการรักษามะเร็ง ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลเพื่อทำความเข้าใจถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการดูแลตนเอง และทางเลือกในการจัดการกับอาการผมร่วง เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ด้วยความเข้าใจและมั่นใจที่สุดครับ