บริหารจัดการอาคาร: กระเบื้องลายไม้ ปูแบบไหนให้บ้านสวยมีสไตล์ กระเบื้องลายไม้ เป็นกระเบื้องสำหรับปูพื้นอีกหนึ่งลวดลายที่ผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนการใช้ไม้ตามธรรมชาติ มีความสวยงามเสมือนไม้จริง ให้ความรู้สึกอบอุ่นและใกล้ชิดความเป็นธรรมชาติมากกว่าลวดลายอื่น ๆ นอกจากนั้นยังไม่มีปัญหาเรื่องปลวกและความชื้นเหมือนไม้จริง
ซึ่งวัสดุของกระเบื้องลายไม้ที่ผลิตในปัจจุบันก็มีทั้งเซรามิค เกลซพอร์ซเลนซ์ แกรนิตโต้ เป็นต้น รวมถึงผิวสัมผัสที่มีทั้งผิวด้าน มัน หยาบ กึ่งมันกึ่งหยาบ นอกจากนั้นบางแบรนด์ยังออกแบบให้มีผิวนูนเหมือนเนื้อไม้ธรรมชาติ และที่สำคัญยังสามารถติดตั้งได้ทุกจุดในบ้าน ทั้งภายในและภายนอก เรียกได้ว่าเป็นวัสดุสมัยใหม่ที่มีความคุ้มค่ากับราคามาก ๆ เลยครับ
ในส่วนของขนาดที่มีในท้องตลาด มีทั้งขนาดมาตรฐานแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสเหมือนกระเบื้องทั่วไป และขนาดแผ่นยาวที่เหมือนกับขนาดของไม้เทียมปูพื้น ซึ่งเป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากกว่า มีความยาวให้เลือกตั้งแต่ 60, 80, 90, 100, 120 เซนติเมตร
กระเบื้องลายไม้ควรปูอย่างไร
เนื่องจากกระเบื้องลายไม้เป็นกระเบื้องแผ่นยาว หากติดตั้งไม่ถูกวิธีและไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา นั่นก็คือ กระเบื้องโก่งและระเบิด เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องระวังในการปูกระเบื้องก็คือ
• ปูให้เต็มแผ่น ห้ามปูแบบซาลาเปาเป็นอันขาด การปูแบบซาลาเปา คือการปูแบบทาปูนกาวหลังกระเบื้องจุดเดียว ทำให้กระเบื้องปูไม่สม่ำเสมอทั่วแผ่น ทำให้เกิดโพรงช่องว่างหลังแผ่นกระเบื้อง และเกิดการสะสมของน้ำและความชื้นได้
• ควรใช้ปูนกาวสำหรับยึดเกาะ และเว้นร่องยาแนว 2 - 5 มิลลิเมตร เพื่อช่วยคลายความร้อนจากพื้นซีเมนต์
กระเบื้องลายไม้ปูแบบไหนได้บ้าง
ดีไซน์ลายแพทเทิร์นพื้นสำหรับกระเบื้องแผ่นยาวมีให้เลือกหลากหลาย เลือกลายเรียบ ๆ แต่ดูดีมาให้ครับ
1. ปูกระเบื้องลายไม้แบบ 1:1 เรียงแถวในสัดส่วนที่เท่ากัน
เป็นการใช้แผ่นกระเบื้องแผ่นยาววางเรียงแถวในสัดส่วนที่เท่ากัน การปูลักษณะนี้จะทำให้พื้นกระเบื้องดูเป็นระเบียบ ช่วยให้ช่างสามารถปูพื้นได้อย่างต่อเนื่องกันทั้งห้อง
2. ปูกระเบื้องลายไม้แบบ 1:3 หรือ ปูเหลื่อมกันแบบ 1:3
เป็นการวางแผ่นกระเบื้องให้มีความเลื่อมจากแถวแรก 1 ใน 3 ส่วนของแต่ละแผ่น เพิ่มลูกเล่นและความแปลกใหม่ให้พื้นกระเบื้องไม้ ไม่ควรปูกระเบื้องลายไม้แบบ 1:2 เนื่องจากกระเบื้องแผ่นยาวจะมีความโก่งเล็กน้อยตามธรรมชาติ ถ้าปูแบบ 1:2 หรือครึ่งแผ่นต่อครึ่งแผ่น จะทำให้เกิดโอกาสที่พื้นผิวจะไม่เรียบเสมอกันได้ จึงควรปูแบบ 1:3 หรือ 1:4 นั่นก็คือปูให้เยื้องกัน เพื่อความเรียบเสมอกัน
3. ปูกระเบื้องลายไม้แบบ 1:4 หรือ ปูเหลื่อมกันแบบ 1:4
นอกจากการปูให้เหลื่อมกันแบบ 1:3 อีกหนึ่งรูปแบบกระเบื้องปูพื้นลายไม้สวย ๆ คือแบบ 1:4 เป็นการวางแผ่นกระเบื้องให้มีความเลื่อมจากแถวแรก 1 ใน 4 ส่วนของแผ่น
4. ปูกระเบื้องลายไม้แบบก้างปลา
หรือเรียกอีกอย่างว่า ลาย Herringbone คือ การปูแบบสลับฟันปลา ด้วยการวางแผ่นซิกแซกให้แต่ละชิ้นมาชนกันเป็นมุม 90 องศา จึงได้ลวดลายเหมือนกับก้างปลา ช่วยให้พื้นดูดีมีความลึก ให้บรรยากาศคลาสสิกและเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น