ผู้เขียน หัวข้อ: จัดฟันบางนา: ฟันโยก อันตราย ควรรับมืออย่างไร ?  (อ่าน 19 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 189
    • ดูรายละเอียด
จัดฟันบางนา: ฟันโยก อันตราย ควรรับมืออย่างไร ?
« เมื่อ: วันที่ 23 กันยายน 2024, 12:48:47 น. »
จัดฟันบางนา: ฟันโยก อันตราย ควรรับมืออย่างไร ?

เชื่อว่าหลายๆท่านต้องผ่านเหตุการณ์ฟันโยกมาแล้วทุกท่าน เนื่องจากว่าฟันโยกนั้นมีทั้งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในช่วงวัยเปลี่ยนผ่านจากฟันน้ำนมเป็นฟันแท้ซึ่งไม่ได้มีอันตรายแต่อย่างใด แต่ฟันโยกอีกรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นจากอาการผิดปกติในช่องปากไม่ว่าจะเป็น เหงือก หรือ ฟัน อันนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสัญญาณที่อันตราย ซึ่งควรที่จะได้รับการรักษาหรือแก้ไข ไม่เช่นนั้นท่านอาจจะต้องสูญเสียฟันแท้ที่สวยงามและแข็งแรงตามธรรมชาติไปนั่นเอง

ซึ่งในวันนี้จะขอพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับฟันโยกให้มากขึ้น เพื่อให้ท่านได้ทราบถึงสาเหตุเป็นสัญญาณเตือนท่านไปด้วยในตัว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


ฟันโยก คืออะไร ?

ฟันโยก ก็คือ อาการฟันคลอนซึ่งมีลักษณะใกล้จะหลุดออกจากเหงือกสามารถขยับไปมาได้ ถือได้ว่าเป็นธรรมชาติหากเกิดขึ้นกับเด็กที่กำลังจะมีฟันแท้ แต่เป็นสัญญาณเตือนความผิดปกติของช่องปากที่สำคัญสำหรับผู้ใหญ่ที่มีฟันแท้ครบแล้วทั้ง 32 ซี่ ซึ่งหากว่าพบอาการฟันโยกในผู้ใหญ่ทางที่ดีที่สุดก็คือให้รีบเข้าพบทันตแพทย์ เพื่อให้ตรวจสอบวินิจฉัยถึงสาเหตุของการเกิดฟันโยกโดยเร็วที่สุด จะได้ทำการรักษาได้ทันท่วงทีนั่นเอง


ฟันโยก เกิดจากอะไร ?

ฟันโยก เกิดขึ้นได้จากหลายๆสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการโยกตามธรรมชาติ หรือเพราะอุบัติเหตุที่มีการกระทบกระแทกฟันรุนแรง รวมถึงช่องปากเริ่มมีอาการผิดปกติ โดยมีรายละเอียดมากมายดังต่อไปนี้

– พัฒนาการตามวัย

ถือได้ว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของเด็กเล็กๆ สำหรับข้อนี้ไม่ต้องมีความกังวลใจใดๆ เพราะ ฟันโยกถือว่าเป็นช่วงหนึ่งของพัฒนาการตามวัยที่ฟันน้ำนมจะค่อยๆโยกและหลุดออกเพื่อเปิดช้องว่างโดยจะถูกแทนที่ด้วยฟันแท้

– การกัดฟัน

หากว่าคนที่นอนกัดฟัน หรืออาจจะกัดฟันแรงๆในเหตุการณ์ต่างๆ การกดทับที่รุนแรงของการกัดฟัน ก็สามารถที่จะทำให้เอ็นยึดปริทันต์และเนื้อเยื่อรอบๆฟันยืดขยายตัว ส่งผลให้เกิดฟันโยกและปัญหาสุขภาพอื่นๆได้ เช่น ปวดบวมตามใบหน้า ปวดศีรษะรุนแรง เป็นต้น

– โรคเหงือก

ฟันโยกอาจจะเป็นสัญญาณเตือนหนึ่งของโรคเหงือกขั้นรุนแรง หรือโรคปริทันต์ ภัยร้ายแรงเกี่ยวกับเหงือกที่หลายๆท่านหวาดกลัว ซึ่งโรคปริทันต์นี้จะเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อภายในเหงือกรวมถึงเนื้อเยื่อและกระดูกใกล้เคียงกับฟันที่โยก ซึ่งโรคปริทันต์นี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโรคที่ทำให้ฟันโยกมากที่สุด ซึ่งโรคปริทันต์เกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ฟัน บริเวณของเหงือกหรือที่เรียกว่า หินปูน

– ฮอร์โมน

ในขณะตั้งครรภ์ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตเจนจะอยู่ในระดับที่สูงขึ้นมากกว่าปกติ ส่งผลให้เอ็นยึดติดปริทันต์ และส่วนของกระดูกที่อยู่รอบๆฟันอ่อนแอลง ซึ่งทำให้ฟันของท่านเกิดอาการโยกได้เช่นกัน ซึ่งในกรณีนี้จะเป็นแค่การโยกชั่วคราวเท่านั้น นอกจากจะมีโรคอื่นร่วมด้วยเช่น โรคปริทันต์

– อุบัติเหตุ

ประสบอุบัติเหตุไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ หากเป็นการกระทบกระเทือนฟันรุนแรง ก็อาจจะทำให้เกิดฟันโยกได้เช่นกัน เนื่องจากว่าการกระแทกอย่างรุนแรงนั้นจะสามารถทำให้เอ็นยึดปริทันต์และเนื้อเยื่อรอบๆฟันเกิดการยืดขยายได้มากขึ้น ทำให้เกิดฟันโยกคลอนนั่นเอง

เบื้องต้นดังที่ได้กล่าวมา ฟันโยก อาจจะเกิดขึ้นได้จากหลายๆสาเหตุ แต่ฟันโยกก็ยังถือได้ว่าเป็นสัญญาณอันตรายที่คอยเตือนเรา เนื่องจากฟันโยกในวัยผู้ใหญ่ที่มีฟันแท้ครบ 32 ซี่นั้น มักจะมีโรคเหงือกและกระดูก รวมถึงเนื้อเยื่อมรอบฟันเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งหากว่าปล่อยทิ้งไว้นานโดยที่ไม่ได้ใส่ใจ ก็อาจจะทำให้แก้ไขได้ยากขึ้น หรือสุดท้ายอาจจะต้องสูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติไปเลยก็เป็นได้

ท้ายที่สุดนี้หากว่าท่านพบว่าฟันในช่องปากมาอาการโยก ควรที่จะรีบปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ทำการตรวจสอบวินิจฉัย เพื่อจะได้ทำการรักษาก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนยากที่จะทำการรักษาต่อไปนั่นเอง

การดูแลสุขภาพช่องปากที่สะอาดปลอยภัยก็ถือได้ว่าเป็นวิธีเบื้องต้นที่จะช่วยให้ท่านห่างไกลโรคร้ายแรงต่างๆในช่องปาก