แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 34
1
โปรแกรมหมอประจำบ้านอัจริยะ: ตับอักเสบจากไวรัส (Viral hepatitis)

ตับอักเสบจากไวรัส (ไวรัสลงตับ ก็เรียก) หมายถึงการอักเสบของเนื้อตับเนื่องจากการติดเชื้อไวรัส*

ในที่นี้หมายถึง ตับอักเสบจากไวรัสชนิดเฉียบพลัน ซึ่งพบเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของอาการดีซ่าน (ตัวเหลือง ตาเหลือง) ที่เกิดขึ้นในเด็กโตและผู้ใหญ่ จนเป็นที่เข้าใจกันว่า โรคดีซ่าน ก็คือ ตับอักเสบจากไวรัส

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย แต่พบมากในเด็กและคนหนุ่มสาว บางครั้งอาจพบระบาดตามหมู่บ้าน โรงเรียน โรงงาน กองทหาร เป็นต้น

*ตับอักเสบชนิดเฉียบพลัน ส่วนใหญ่เกิดจากไวรัสตับอักเสบ (hepatitis virus) ส่วนน้อยเกิดจากไวรัสชนิดอื่น เช่น คางทูม หัดเยอรมัน เริม ไวรัสไซโตเมกาโล เป็นต้น นอกจากไวรัสแล้ว ตับอักเสบยังอาจเกิดจากแอลกอฮอล์ ยา (เช่น ไอเอ็นเอช ไรแฟมพิซิน คีโตโคนาโซล อีริโทรไมซิน ยาลดไขมันกลุ่มสแตติน เป็นต้น) สมุนไพร (ขี้เหล็ก บอระเพ็ด) ทำให้มีอาการดีซ่าน ตับโต คล้ายโรคตับอักเสบจากไวรัส ซึ่งบางครั้งอาจแยกกันไม่ได้ชัดเจน อาจต้องทำการตรวจเลือดและตรวจพิเศษอื่น ๆ

สาเหตุ

ในปัจจุบันพบว่าไวรัสที่ทำให้เกิดโรคตับอักเสบมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ที่สำคัญมีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่

1. เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดเอ (hepatitis A virus/HAV) ซึ่งทำให้เกิดโรคตับอักเสบชนิดเอ (hepatitis A) หรือเดิมเรียกว่า "Infectious hepatitis" สามารถติดต่อโดยทางระบบทางเดินอาหาร กล่าวคือ โดยการกินอาหาร ดื่มนมหรือน้ำที่ปนเปื้อนอุจจาระของผู้ที่มีเชื้อโรคนี้ (เช่นเดียวกับโรคบิด อหิวาต์ ไทฟอยด์) ดังนั้นจึงสามารถแพร่กระจายโรคได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านเรา ซึ่งการสุขาภิบาลยังไม่ดี บางครั้งอาจพบเป็นโรคระบาดได้

ระยะฟักตัวของตับอักเสบชนิดเอ 15-45 วัน (เฉลี่ย 30 วัน) ซึ่งนับว่าสั้นกว่าชนิดบี

2. เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี (hepatitis B virus/HBV) ซึ่งทำให้เกิดโรคตับอักเสบชนิดบี (hepatitis B) หรือเดิมเรียกว่า "Serum hepatitis"

เชื้อนี้จะมีอยู่ในเลือด และยังอาจพบมีอยู่ในน้ำลาย น้ำตา น้ำนม ปัสสาวะ น้ำอสุจิ น้ำเมือกในช่องคลอด เป็นต้น

เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายโดยทางเพศสัมพันธ์ หรือถ่ายทอดจากมารดาไปยังทารกขณะคลอด หรือหลังคลอดใหม่ ๆ ทำให้ทารกมีเชื้อโรคนี้อยู่ในร่างกายซึ่งสามารถแพร่ให้ผู้อื่นได้

นอกจากนี้ โรคนี้ยังสามารถติดต่อโดยทางเลือด เช่น การให้เลือด การฉีดยา การฝังเข็ม การสักตามร่างกาย การทำฟัน การใช้เครื่องมือแพทย์ที่แปดเปื้อนเลือดของผู้ที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้ เป็นต้น

ระยะฟักตัวของตับอักเสบชนิดบี 30-180 วัน (เฉลี่ย 60-90 วัน)

3. เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดซี (hepatitis C virus/HCV) ซึ่งทำให้เกิดโรคตับอักเสบชนิดซี (hepatitis C) เชื้อชนิดนี้สามารถติดต่อโดยทางเลือด ทางเพศสัมพันธ์ และถ่ายทอดจากมารดาไปยังทารกได้เช่นเดียวกับไวรัสตับอักเสบชนิดบี ระยะฟักตัว 6-7 สัปดาห์

ผู้ติดเชื้อชนิดซี อาจกลายเป็นพาหะหรือโรคตับอักเสบเรื้อรัง และมีภาวะแทรกซ้อนได้เช่นเดียวกับตับอักเสบชนิดบี

นอกจากไวรัสทั้ง 3 ชนิดนี้แล้ว ยังมีไวรัสชนิดอื่น ๆ ได้แก่ เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดอี (hepatitis E virus) ซึ่งสามารถติดต่อโดยทางอาหารการกินเช่นเดียวกับชนิดเอ เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดจี (hepatitis G virus) ซึ่งสามารถติดต่อโดยทางเลือด เช่น การให้เลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกันในผู้ใช้ยาเสพติด

นอกจากนี้ยังพบเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดดี (hepatitis D virus) ซึ่งมักพบร่วมกับการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี พบมากในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดโดยการฉีดเข้าหลอดเลือดดำ และอาจทำให้อาการตับอักเสบจากเชื้อไวรัสบีมีความรุนแรงมากขึ้น


อาการ

ตับอักเสบจากไวรัสชนิดเฉียบพลันจะมีอาการแสดง ดังนี้

ระยะนำ ผู้ป่วยมักมีอาการอื่น ๆ นำมาก่อนจะมีอาการตาเหลืองประมาณ 2-14 วัน ด้วยอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย อิดโรย คลื่นไส้ อาเจียน และเป็นไข้ (ประมาณ 38-39 องศาเซลเซียส)

บางรายอาจมีอาการปากคอจืด และเหม็นเบื่อบุหรี่อย่างมาก

บางรายอาจมีอาการปวดเสียดหรือจุกแน่นแถวลิ้นปี่หรือชายโครงขวา อาจมีอาการถ่ายเหลวหรือท้องเดิน หรือมีอาการเป็นหวัด เจ็บคอ ไอ คล้ายไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ หรืออาจมีอาการปวดตามข้อมีลมพิษ ผื่นขึ้น

ก่อนมีอาการตาเหลือง 1-5 วัน ผู้ป่วยจะปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้มเหมือนขมิ้น และอุจจาระสีซีดกว่าปกติ ระยะนี้มักจะพบว่าตับโตและเคาะเจ็บ

ระยะตาเหลือง เมื่อมีอาการตาเหลือง อาการต่าง ๆ จะเริ่มทุเลา และไข้จะลดลงทันที (หากยังมีไข้ร่วมกับตาเหลืองอีกหลายวัน ควรนึกถึงสาเหตุอื่น (ตรวจอาการดีซ่าน/ตาเหลือง) ตาจะเหลืองเข้มมากที่สุดในสัปดาห์ที่ 1 และ 2 แล้วจะค่อย ๆ จางหายไปใน 2-4 สัปดาห์ โดยทั่วไปผู้ป่วยมักจะมีอาการตาเหลืองอยู่ประมาณ 3-5 สัปดาห์ และน้ำหนักตัวอาจลดไป 2-3 กิโลกรัม

ในขณะที่ตาเหลืองเริ่มจางลง ผู้ป่วยจะสังเกตเห็นอุจจาระกลับมีสีเข้มเหมือนปกติ และปัสสาวะสีค่อย ๆ จางลง ระยะนี้ตับยังโตและเจ็บ แต่จะค่อย ๆ ลดน้อยลง ต่อมน้ำเหลืองที่หลังคอและม้ามอาจโตได้

ระยะฟื้นตัว หลังจากหายตาเหลืองแล้ว ผู้ป่วยจะรู้สึกสบายขึ้น แต่ยังอาจรู้สึกเหนื่อยล้า ตับจะยังโตและเจ็บเล็กน้อย กินเวลาประมาณ 2-6 สัปดาห์ ส่วนใหญ่อาการจะหายสนิทภายใน 3-4 เดือน หลังมีอาการแสดงของโรค

ผู้ป่วยบางรายอาจไม่แสดงอาการตาเหลือง (ดีซ่าน) ให้เห็น หรือคลำตับไม่ได้ มีเพียงอาการเพลียคล้ายไข้หวัดใหญ่ หรือปวดเสียดชายโครงขวา ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนมากมักจะหายเป็นปกติโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นตับอักเสบชนิดเอ

ส่วนน้อยเท่านั้นที่อาจมีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งจะพบในผู้ป่วยที่เป็นตับอักเสบชนิดบีหรือซี และมักเกิดในผู้ป่วยสูงอายุ หรือมีโรคอื่น ๆ (เช่น หัวใจวาย เบาหวาน มะเร็ง โลหิตจางรุนแรง เป็นต้น) อยู่ก่อน

โรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงกับทำให้เสียชีวิตในเวลารวดเร็ว (ซึ่งพบได้น้อยมาก) ได้แก่ ตับอักเสบชนิดเร็วร้าย (fulminant hepatitis) ซึ่งเซลล์ของตับถูกทำลายจนเนื้อตับเสียเกือบทั้งหมด ผู้ป่วยจะมีอาการตาเหลืองจัด บวม และหมดสติ

ประมาณร้อยละ 5-10 ของผู้ป่วยที่เป็นตับอักเสบชนิดบี และร้อยละ 75 ของผู้ป่วยที่เป็นตับอักเสบชนิดซี อาจกลายเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง (chronic hepatitis)* ซึ่งจะมีอาการอักเสบของตับอยู่นานเกิน 6 เดือน ผู้ป่วยอาจมีอาการอ่อนเพลียเหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร ท้องอืดเฟ้อ ดีซ่าน หรือไข้ต่ำ ๆ บางรายอาจมีอาการของตับแข็ง แต่บางรายอาจไม่มีอาการแสดงใด ๆ เลยก็ได้ จะวินิจฉัยได้แน่ชัดด้วยการตรวจเลือดพบว่ามีเอนไซม์ตับ ได้แก่ เอเอสที (AST)** และเอแอลที (ALT)*** สูงถึง 100-150 หน่วย และพบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซีร่วมด้วย หากปล่อยปละละเลยไม่ได้ดูแลรักษา อาจเกิดโรคตับแข็งและมะเร็งตับในระยะยาวได้
 

*โรคตับอักเสบเรื้อรัง (chronic hepatitis) นอกจากเกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซีแล้ว ยังอาจเกิดจากยา (เช่น เมทิลโดพาที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง ไอเอ็นเอชที่ใช้รักษาวัณโรค) หรือเกิดจากปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง หรือออโตอิมมูน (autoimmume) ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน

ผู้ป่วยบางรายอาจกลายเป็นโรคตับแข็ง ตับวาย หรือมะเร็งตับ ในระยะ 5-10 ปีต่อมาได้
 
**ย่อมาจาก aspartate aminotransferase ซึ่งเดิมเคยเรียกว่า SGOT (serum glutamic-oxaloacetic transaminase) ค่าปกติไม่เกิน 40 หน่วย

***ย่อมาจาก alanine aminotransferase ซึ่งเดิมเคยเรียกว่า SGPT (serum glutamic pyruvic transaminase) ค่าปกติไม่เกิน 35 หน่วย


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย โดยตรวจพบอาการตาเหลือง ตัวเหลือง คลำได้ตับโต ซึ่งมีลักษณะนุ่ม ผิวเรียบ กดเจ็บเล็กน้อย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการเจาะเลือดทดสอบการทำงานของตับ (liver function test) ซึ่งจะพบว่ามีระดับเอนไซม์ตับ (AST‚ ALT) สูงกว่าปกติเป็นสิบ ๆ เท่า (บ่งชี้ว่ามีการอักเสบของเซลล์ตับ) ตลอดจนระดับบิลิรูบิน (bilirubin ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ตัวเหลืองตาเหลือง) สูง

นอกจากนี้ยังอาจต้องเจาะเลือดตรวจดูชนิดของเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรค ว่าเป็นตับอักเสบชนิดเอ บี ซี หรือชนิดอื่น


การรักษาโดยแพทย์

หากสงสัย จะทำการชันสูตรเพิ่มเติมโดยการตรวจเลือด เมื่อตรวจพบว่าเป็นตับอักเสบจากไวรัสชนิดเฉียบพลัน จะให้การรักษาดังนี้

1. ถ้าพบในเด็กหรือคนหนุ่มสาว ซึ่งอาการโดยทั่วไปดี กินข้าวได้ ไม่ปวดท้องหรืออาเจียน แพทย์จะให้คำแนะนำผู้ป่วยในการปฏิบัติตัวต่าง ๆ

ส่วนยาไม่จำเป็นต้องให้ ยกเว้นการให้ยาบรรเทาอาการ เช่น ถ้าคลื่นไส้ อาจให้ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน ถ้ากินไม่ได้อาจฉีดกลูโคสหรือให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ เป็นต้น

2. ถ้าอาการตาเหลืองไม่จางลงใน 2 สัปดาห์ หรือมีไข้สูง อ่อนเพลียมาก น้ำหนักลดมาก ปวดท้องมากหรืออาเจียนมาก หรือพบในผู้สูงอายุ แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม (เช่น ตรวจเลือด เอกซเรย์ อัลตราซาวนด์ เป็นต้น) และให้การรักษาตามภาวะผิดปกติหรือสาเหตุที่ตรวจพบ บางกรณีแพทย์อาจจำเป็นต้องรับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล

3. สำหรับโรคตับอักเสบจากไวรัส ในการติดตามผลการรักษา จะนัดตรวจเลือดเป็นระยะ ๆ (ประมาณทุก 2-4 สัปดาห์) จนกระทั่งแน่ใจว่าระดับเอนไซม์เอเอสทีและเอแอลทีลงสู่ปกติซึ่งแสดงว่าหายดีแล้ว

ผลการรักษา ส่วนใหญ่จะหายดี (ตาหายเหลือง หายเพลีย กินข้าวได้มาก และผลเลือดเป็นปกติ) ภายใน 3-16 สัปดาห์

ส่วนน้อย (โดยเฉพาะในรายที่เกิดจากไวรัสตับอักเสบชนิดบีหรือซี) อาจเป็นเรื้อรังนานเกิน 6 เดือน เรียกว่า ตับอักเสบเรื้อรัง แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการตรวจชิ้นเนื้อตับ (liver biopsy) และการตรวจเลือดเพื่อดูสาเหตุ ความรุนแรง และภาวะแทรกซ้อน (เช่น ตับแข็งหรือมะเร็งตับ)

สำหรับไวรัสตับอักเสบชนิดบี แพทย์จะให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัส เช่น ลามิวูดีน (lamivudine)   

สำหรับไวรัสตับอักเสบชนิดซี แพทย์จะให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัส เช่น ไรบาไวริน (ribavirin), ยาสูตรผสม sofosbuvir/velpatasvir เป็นต้น   

บางรายอาจจำเป็นต้องฉีดอินเทอร์เฟอรอน (interferon) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านไวรัสและลดการอักเสบของตับร่วมด้วย แพทย์จะนัดผู้ป่วยมาติดตามการรักษาเป็นระยะ (เช่น ทุก 3 เดือน) และให้ยาต่อเนื่องกันนานเป็นแรมปี หรือจนกว่าจะหายขาด


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการตาเหลืองตัวเหลือง อ่อนเพลีย หรือปวดเสียดใต้ชายโครงขวา เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นตับอักเสบจากไวรัส ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

    พักผ่อนอย่างเต็มที่ ห้ามทำงานหนักจนกว่าจะรู้สึกหายเพลีย
    ดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณวันละ 10-15 แก้ว
    กินอาหารพวกโปรตีน (เช่น เนื้อ นม ไข่ ซุบ ถั่วต่าง ๆ) ให้มาก ๆ ส่วนอาหารมันให้กินได้ตามปกติ ยกเว้นในรายที่กินแล้วคลื่นไส้อาเจียนให้งด
    ถ้าเบื่ออาหารให้ดื่มน้ำหวานหรือน้ำตาลกลูโคส ถ้ากินอาหารได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำหวานหรือกลูโคสให้มากขึ้น อาจทำให้น้ำหนักเกินได้
    ถ้ามีอาการท้องอืดหรือคลื่นไส้ ควรงดอาหารมัน
    แยกสำรับกับข้าวและเครื่องใช้ส่วนตัวออกจากผู้อื่น
    ล้างมือหลังถ่ายอุจจาระทุกครั้ง
    งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

2. ดูแลรักษาและกินยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง

3. ติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

4. ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีไข้สูง หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
    ปวดท้องมาก คลื่นไส้อาเจียน หรือกินไม่ได้
    อ่อนเพลียมากขึ้น หรือตัวเหลืองตาเหลืองมากขึ้น
    อาการไม่ดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์
    หลังกินยาที่แพทย์แนะนำ มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล


การป้องกัน

1. สำหรับตับอักเสบชนิดเอ ควรกินอาหารสุกที่ไม่มีแมลงวันตอม ดื่มน้ำสะอาด ถ่ายลงส้วม ล้างมือด้วยน้ำสบู่ก่อนเตรียมอาหาร ก่อนเปิบข้าว และหลังถ่ายอุจจาระทุกครั้ง   

ปัจจุบันมีวัคซีนที่ใช้ป้องกันตับอักเสบชนิดเอ แนะนำให้ฉีดแก่สมาชิกในครอบครัวผู้ป่วย ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ผู้ประกอบการเกี่ยวกับอาหาร บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเมื่อมีการระบาดของโรค (เช่น นักเรียน ทหาร เป็นต้น) โดยฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน

สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 18 ปี ควรตรวจเลือดก่อน หากพบว่ามีภูมิคุ้มกันแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฉีด

2. สำหรับตับอักเสบชนิดบีและซี ควรปฏิบัติดังนี้

    ควรหลีกเลี่ยงการฉีดยา หรือให้น้ำเกลือโดยไม่จำเป็น ถ้าจำเป็นต้องฉีดยา ควรเลือกใช้เข็มและกระบอกฉีดยาที่ผ่านกรรมวิธีทำให้ปลอดเชื้อ
    ในการให้เลือดควรใช้เลือดที่ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี โดยการตรวจเช็กเลือดของผู้บริจาคทุกราย

    หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคม เข็มฉีดยา มีดโกนหนวด และแปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่น และห้ามใช้อุปกรณ์ในการสักร่วมกับผู้อื่น

    แพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุข ควรระมัดระวังในการสัมผัสถูกเลือดของผู้ป่วย เช่น สวมถุงมือขณะเย็บแผล ผ่าตัด หรือสวนปัสสาวะผู้ป่วย
    วัคซีนป้องกันตับอักเสบชนิดบี สำหรับทารกแรกเกิดทุกคน สถานบริการสุขภาพของรัฐจะฉีดวัคซีนชนิดนี้โดยไม่คิดมูลค่าตั้งแต่วันแรกที่เกิด วัคซีนชนิดนี้จะฉีดให้ 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 จะห่างจากครั้งแรก 1-2 เดือน และ 6 เดือนตามลำดับ
     

สำหรับผู้ใหญ่ก่อนฉีดวัคซีนชนิดนี้ควรตรวจเลือดเสียก่อน หากพบว่าเป็นพาหะหรือมีภูมิคุ้มกันแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฉีด


ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยที่เป็นตับอักเสบจากไวรัสชนิดเฉียบพลัน ห้ามดื่มแอลกอฮอล์นาน 1 ปี เพราะอาจทำให้โรคเรื้อรังหรือกำเริบใหม่ได้

2. ระหว่างที่เป็นโรคควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่อาจมีพิษต่อตับ เช่น พาราเซตามอล เตตราไซคลีน ไอเอ็นเอช อีริโทรไมซิน ยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นต้น

3. เข็มฉีดยาที่ใช้กับผู้ป่วยโรคนี้ควรทิ้งไปเลย ห้ามนำไปใช้ฉีดผู้อื่นต่อ เพราะอาจแพร่เชื้อได้

4. ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบไม่จำเป็นต้องกลายเป็นโรคตับอักเสบเสมอไปทุกราย บางรายอาจมีเชื้ออยู่ในร่างกายเพียงชั่วคราวโดยไม่เป็นโรค แล้วเชื้อหายไปได้เอง

บางรายอาจมีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซีอยู่ในร่างกายโดยไม่มีอาการแสดงแต่อย่างใด แต่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่น เรียกว่า พาหะ (carrier) ซึ่งสามารถตรวจพบจากการตรวจเลือดเช็กสุขภาพ (ดังนั้นจึงแนะนำให้หมั่นตรวจเช็กสุขภาพเป็นระยะ)

บางรายหลังได้รับเชื้ออาจมีอาการเป็นไข้ อ่อนเพลียคล้ายไข้หวัดใหญ่ หรือคลื่นไส้ อาเจียน จุกเสียดท้อง โดยไม่มีอาการตาเหลืองก็ได้

5. ผู้ที่เป็นพาหะของโรคตับอักเสบชนิดบีหรือซี (พบเชื้อในกระแสเลือดโดยไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด) ควรหาทางพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายได้ตามปกติเช่นคนทั่วไป อย่าอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก งดบริจาคโลหิต ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคนี้) และหมั่นตรวจเลือดดูเชื้อและทดสอบการทำงานของตับ (liver function test) รวมทั้งการตรวจหาสารแอลฟาฟีโตโปรตีน (alpha-fetoprotein) เพื่อค้นหามะเร็งตับระยะแรกเริ่ม ทุก 3-6 เดือน

ผู้ที่เป็นพาหะอาจเกิดโรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับแทรกซ้อน โดยมากมักจะเกิดกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสบีหรือซีจากมารดามาตั้งแต่เกิด แล้วเชื้อจะอยู่ในร่างกายจนย่างเข้าวัย 40-50 ปี ก็อาจเกิดผลแทรกซ้อนตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ หรือตรากตรำงานหนัก

6. ผู้ที่เป็นตับอักเสบจากไวรัสชนิดเรื้อรัง ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ มักตรวจพบจากการตรวจเลือด เช็กสุขภาพ ควรติดตามรักษากับแพทย์อย่างต่อเนื่อง และเฝ้าระวังการเกิดโรคตับแข็งและมะเร็งตับ ซึ่งหากพบระยะแรกเริ่ม ก็สามารถรักษาได้ผลดี มีอายุยืนยาวได้

7. ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคหรือเป็นพาหะของโรคตับอักเสบชนิดบี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นสามีหรือภรรยาและบุตรควรตรวจเลือด ถ้ายังไม่มีภูมิคุ้มกันโรคควรฉีดวัคซีนป้องกัน

8. หญิงตั้งครรภ์ทุกคนจะต้องได้รับการตรวจเลือดดูว่ามีเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีหรือไม่ ถ้าพบว่ามีเชื้อ ทารกที่เกิดมาทุกคนจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบจากไวรัสชนิดบี 3 ครั้ง ตั้งแต่แรกเกิด และเมื่ออายุครบ 1 และ 6 เดือน และในรายที่มารดาตรวจพบ HBeAg เป็นผลบวก ทารกจะต้องได้รับการฉีดสารอิมมูนโกลบูลิน (hepatitis B immune globulin/HBIG) ร่วมกับวัคซีนดังกล่าวจะช่วยป้องกันมิให้ทารกติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้

2
เตรียมพร้อมสุขภาพฟัน ก่อนเข้ารับการจัดฟันเด็ก

ในปัจจุบันเด็กหลายคนมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน เนื่องจากละเลยในการทำความสะอาดช่องปากและฟันและบวกกับการที่เด็กชอบรับประทานของหวาน น้ำอัดลมหรือขนมต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ การเกิดฟันผุเป็นปัญหาที่มักพบได้บ่อยและส่งผลทำให้กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ โดนล้อ หรือแม้กระทั่งทำให้รับประทานอาหารได้ไม่เต็มที่ ผลกระทบของโรคฟันผุในเด็กสามารถส่งผลต่อสุขภาพร่างกายได้ในอนาคต เพราะการที่มีฟันน้ำนมผุจะทำให้รู้สึกปวด บดเคี้ยวอาหารไม่ได้และร่างกายจะได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วน ส่งผลต่อการเจริญเติบโตอีกทั้ง

อาการปวดฟันยังส่งผลทำให้เด็กนอนไม่หลับและทำให้เรียนรู้ช้า สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กและยังสามารถขัดขวางในเรื่องของพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์และสติปัญญาได้อีกด้วย ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันและควรปลูกฝังให้เด็กตระหนักถึงปัญหาของสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อให้เด็กได้เติบโตไปมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีหรือถ้าผู้ปกครองท่านใดสนใจที่อยากจะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆเพราะการที่เด็กเข้ารับการจัดฟันก็จะช่วยทำให้ปลูกฝังในเรื่องของการดูแลช่องปากและฟันไปในตัวและยังช่วยทำให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น


สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด ที่กำลังตัดสินใจว่าจะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กหรือไม่ เพราะอาจจะกังวลในข้อจำกัดหลายๆอย่างและไม่ทราบว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กในวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงวิธีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ปกครองได้ปฏิบัติตัวและให้เด็กได้เตรียมความพร้อม สำหรับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก สำหรับวิธีการเตรียมตัวของพ่อแม่ผู้ปกครอง สิ่งสำคัญเลยก็คือควรพูดทำความเข้าใจกับบุตรหลานของท่านให้เข้าใจว่า เหตุใดเด็กจะต้องเข้ารับการจัดฟัน เพื่อให้บุตรหลานของท่านได้เข้าใจก่อนเข้ารับการรักษา


เพราะเด็กหลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับการเข้าพบทันตแพทย์เพราะ กลัวเจ็บหรือรู้สึกเขินอาย ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรสร้างทัศนคติที่ดีในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพฟันให้แก่บุตรหลาน สำหรับวิธีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ในขั้นแรกที่เรากล่าวไปแล้วก็คือพ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันให้กับบุตรหลานของท่าน ต่อมาก่อนการเข้ารับการจัดฟันเด็กจะต้องทำความสะอาดช่องปากและฟันก่อนเข้าตรวจกับทันตแพทย์ ในข้อนี้เด็กจะต้องมีความร่วมมือในการรักษากับทันตแพทย์ด้วย ต่อมาถึงขั้นตอนของการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กเพื่อให้ทันตแพทย์ได้วางแผนการรักษาที่เหมาะสม โดยอาจจะมีพ่อแม่ผู้ปกครองร่วมพูดคุยด้วย หลังจากพูดคุยเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงขั้นตอนการวางแผนการรักษาและการออกแบบ


เครื่องมือการจัดฟันให้เหมาะสมกับเด็ก นี่ก็คือวิธีการเตรียมพร้อมก่อนเข้ารับ จัดฟันในเด็กส่วนในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่จะต้องเตรียมในการจัดฟัน ในข้อนี้ต้องอธิบายก่อนว่าราคาของการจัดฟันในแต่ละแบบและแต่ละสถานที่จะมีความแตกต่างกันออกไป โดยจะขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ รวมกับปัญหาของสุขภาพช่องปากและฟันด้วย ดังนั้น ในเรื่องของค่าใช้จ่ายพ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะหาข้อมูล เปรียบเทียบราคา หรือเงื่อนไขและเตรียมความพร้อมก่อนพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กเพื่อที่จะได้เลือกแนวทางที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด


หากพ่อแม่ท่านใดอยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก รวมไปถึงมีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมของเด็กจึงทำให้มีการรักษาได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัยและเหมาะสมมากที่สุด เพราะทางคลินิกของเราอยากให้เด็กทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรงสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

3
ไอเดียการทำของขวัญสุดเก๋ ไม่ซ้ำใคร

ไอเดียการทำของขวัญสุดเก๋ที่ไม่ซ้ำใครนั้นไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ เพราะหัวใจสำคัญอยู่ที่ความตั้งใจและไอเดียที่ใส่ลงไป ลองดูไอเดียเหล่านี้ที่รับรองว่าคนรับจะประทับใจแน่นอน


ของขวัญที่สร้างจากความทรงจำ

การนำความทรงจำมาสร้างเป็นของขวัญจะทำให้มีคุณค่าทางใจสูงและเป็นของชิ้นเดียวในโลก

Scrapbook หรืออัลบั้มภาพทำมือ: รวบรวมภาพถ่ายและเขียนเรื่องราวที่น่าจดจำลงไปในสมุดเล่มเดียว

กรอบรูป DIY: ซื้อกรอบรูปมาตกแต่งด้วยตัวเอง เช่น ติดดอกไม้แห้ง ลูกปัด หรือเพ้นท์สีตามสไตล์ผู้รับ

กล่องของขวัญแห่งความทรงจำ: นำกล่องไม้หรือกล่องกระดาษมาตกแต่ง แล้วใส่ของเล็กๆ น้อยๆ ที่มีความหมาย เช่น ตั๋วหนัง, บัตรคอนเสิร์ต, หรือจดหมายที่เคยเขียนให้กัน


ของขวัญที่ใช้ได้จริงและมีสไตล์

ของขวัญเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้รับสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และยังดูดีมีสไตล์

เทียนหอมจากเปลือกส้ม: นำเปลือกส้มมาทำเป็นภาชนะ แล้วเทเทียนไขที่ผสมน้ำมันหอมระเหยที่ชอบลงไป

กระถางต้นไม้เพ้นท์ลาย: ซื้อกระถางดินเผาขนาดเล็กมาเพ้นท์ลวดลายหรือข้อความที่สื่อถึงผู้รับ

ชุดผลิตภัณฑ์สปาโฮมเมด: ทำสครับกาแฟ, สบู่, หรือเกลือแช่ตัวด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ แล้วจัดใส่กล่องอย่างสวยงาม


ของขวัญที่รับประทานได้

ของขวัญประเภทนี้แสดงถึงความใส่ใจและสามารถสร้างความสุขได้ง่ายๆ

คุกกี้ในขวดโหล: อบมินิคุกกี้หลายๆ รส แล้วจัดเรียงใส่ขวดโหลแก้วพร้อมผูกริบบิ้น

ชุดเบเกอรี่สำเร็จรูป (DIY Kit): จัดเตรียมส่วนผสมและสูตรในการทำเบเกอรี่ใส่กล่องให้ผู้รับสามารถนำไปทำเองได้

ชาหรือกาแฟเบลนด์พิเศษ: ซื้อชาหรือกาแฟชนิดโปรดของผู้รับหลายๆ แบบมาจัดรวมกัน แล้วใส่คำแนะนำในการชงลงไปด้วย

4
เมนูสร้างรายได้ ผัดกะเพราหมูกรอบเนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบด้วยรสชาติที่จัดจ้าน หอมกลิ่นใบกะเพรา เมนูอาหารตามสั่งยอดฮิตของคนไทย

เมื่อพูดถึงอาหารริมทางของไทยผัดกะเพราหมูกรอบเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมและน่าพึงพอใจที่สุดที่คุณสามารถสั่งได้ในร้านอาหารท้องถิ่น อาหารจานนี้ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่เข้มข้น เนื้อสัมผัสที่กรอบและรสชาติที่ลงตัวของความเผ็ดร้อนและกลิ่นหอม กะเพราหมูกรอบเป็นเมนูอาหารตามสั่งยอดนิยมของไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยรสชาติที่จัดจ้าน หอมกลิ่นใบกะเพราและความกรุบกรอบของหมูกรอบ

ทำให้เป็นเมนูที่ใครหลายคนชื่นชอบทำให้อาหารจานนี้เป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับผู้ชื่นชอบอาหารไทย


ผัดกะเพราหมูกรอบ คืออะไร ?

ผัดกะเพราหมูกรอบ ประกอบด้วยหมูสามชั้นทอดกรอบผัดกับกะเพรา กระเทียม พริกสด และซอสรสเข้มข้นที่ทำจากซอสหอยนางรม ซอสถั่วเหลือง และน้ำปลา มักเสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลินึ่งและไข่ดาวเพื่อเพิ่มความอร่อย

ทำไมมันถึงเป็นที่นิยม?
รสชาติที่เข้มข้น – การผสมผสานกันระหว่างหมูสามชั้นกรอบ โหระพาหอม และพริกเผ็ดสร้างรสชาติอูมามิที่น่ารับประทาน
รวดเร็วและง่ายดาย – เป็นอาหารจานง่ายๆ แต่มีคุณค่าทางโภชนาการ ปรุงได้ภายในไม่กี่นาที เหมาะสำหรับวิถีชีวิตที่เร่งรีบ
ปรับแต่งได้ – คุณสามารถปรับระดับความเผ็ด เพิ่มผัก หรือเปลี่ยนหมูกรอบเป็นไก่ เนื้อวัว หรือเต้าหู้ได้
ทานคู่กับข้าวสวย – รสชาติที่เข้มข้นของเมนูนี้เข้ากันได้ดีกับข้าวสวย ทำให้เป็นมื้ออาหารที่ครบถ้วนและอิ่มอร่อย

เคล็ดลับความอร่อย
หมูกรอบควรเลือกที่สดใหม่และกรอบ
ใบกะเพราควรเลือกใบที่สดใหม่และมีกลิ่นหอม
ปรุงรสให้ได้รสชาติที่ชอบ สามารถเพิ่มหรือลดปริมาณเครื่องปรุงได้ตามต้องการ
บางคนอาจเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ เช่น ถั่วฝักยาว หรือข้าวโพดอ่อน เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ

คุณค่าทางโภชนาการ
กะเพราหมูกรอบให้พลังงานสูง เนื่องจากมีส่วนประกอบของหมูกรอบซึ่งมีไขมันสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีคุณค่าทางโภชนาการจากใบกะเพราที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ

ข้อควรระวัง
ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากมีไขมันสูง
ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ หรือความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังในการรับประทาน
กะเพราหมูกรอบเป็นเมนูที่ทำได้ง่ายและอร่อย หากใครที่ชื่นชอบอาหารรสจัดจ้าน ไม่ควรพลาดเมนูนี้

วิธีการเพลิดเพลินไปกับมัน
หากต้องการสัมผัสรสชาติที่แท้จริง ให้สั่งแบบเผ็ดเพื่อสัมผัสความเผ็ดร้อนจากพริกไทยไทยสดๆ
จับคู่กับไข่ดาว กรอบๆ เพื่อเพิ่มความเข้มข้น
แตงกวาสดหั่นเป็นชิ้นเคียงมาช่วยปรับสมดุลความร้อนและเพิ่มความสดชื่นให้กับจานอาหาร

ผัดกะเพราหมูกรอบเป็นเมนูที่ใครๆ ก็ต้องลองชิม ไม่ว่าคุณจะไปกินที่ร้านข้างทางหรือทำเองที่บ้าน รสชาติที่จัดจ้านและเนื้อหมูกรอบจะทำให้คุณอยากกลับมากินอีกแน่นอน หากคุณยังไม่เคยลอง รับรองว่าคุณต้องติดใจ


5
Doctor At Home: หลอดเลือดแดงขาตีบ (Peripheral artery disease/PAD)

หลอดเลือดแดงขาตีบ (Peripheral artery disease/PAD)* ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis)

โรคนี้ส่วนใหญ่จะเริ่มพบได้ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี และยิ่งมีอายุมากขึ้นก็ยิ่งพบได้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน หรือผู้ที่สูบบุหรี่ มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคนี้

นอกจากนั้นอาจพบในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เช่น ความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วน

มักพบร่วมกับโรคที่เกี่ยวข้องกับภาวะหลอดเลือดแดงตีบอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมอง ไตวายเรื้อรัง ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย (องคชาตไม่แข็งตัว) เป็นต้น

*Peripheral artery disease/Peripheral arterial disease/PAD ซึ่งแปลว่า หลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบนั้น หมายถึง หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงแขนหรือขาเกิดการตีบแคบลง ทำให้เลือดไปเลี้ยงแขนหรือขาไม่ได้
ภาวะนี้มักเกิดที่หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงขา เรียกว่า "หลอดเลือดแดงขาตีบ"
ในบทนี้จึงขอกล่าวถึงเฉพาะเรื่อง "หลอดเลือดแดงขาตีบ"


สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะหลอดเลือดแดงแข็งจากการมีตะกรันไขมันเกาะที่ภายในผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบลง เลือดไปเลี้ยงขาและปลายเท้าได้น้อยลง

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงขาแข็งและตีบที่สำคัญ ได้แก่ เบาหวาน การสูบบุหรี่ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากปัจจัยอื่น ได้แก่ อายุ (มากกว่า 50 ปี) ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูงหรือผิดปกติ ภาวะอ้วน (ดัชนีมวลกายมากกว่า 30 กก./ตร.ม.) ภาวะโฮโมซีสตีนในเลือดสูง (hyperhomocysteinemia) โรคไตเรื้อรัง มีพ่อแม่หรือพี่น้องเป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน (อัมพฤกษ์ อัมพาต)

โรคนี้ส่วนน้อยอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น การฉายรังสี การบาดเจ็บที่ขา การอักเสบของหลอดเลือดแดงขา (ซึ่งอาจพบเป็นภาวะแทรกซ้อนของ โรคหลอดเลือดแดงขมับอักเสบ) เป็นต้น

นอกจากนี้ อาจเกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นที่ขา เช่น กลุ่มอาการหลอดเลือดแดงขาพับถูกกดทับ (popliteal entrapment syndrome) ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นกดทับถูกหลอดเลือดแดงที่บริเวณขาพับ ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ค่อนข้างน้อย และพบได้ในคนอายุน้อยหรือวัยหนุ่มสาว


อาการ

ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดแดงขาตีบในระยะแรกอาจไม่มีอาการ ซึ่งตรวจพบได้จากการตรวจเช็กสุขภาพจากแพทย์

ผู้ป่วยจะแสดงอาการเมื่อมีการตีบของหลอดเลือด เกินร้อยละ 50

อาการเริ่มแรกที่พบบ่อย คือ ขาข้างที่ผิดปกติมีอาการปวดเวลาเดินไปได้สักพักหนึ่ง หรือเวลาเดินขึ้นบันได มักมีอาการปวดหน่วง ๆ ที่น่อง บางคนอาจปวดที่ต้นขาหรือสะโพกร่วมด้วย (ซึ่งขึ้นกับตำแหน่งที่ตีบตันของหลอดเลือด) อาการอาจเกิดที่ขาเพียงข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างก็ได้

อาการปวดจะทุเลาได้เองเมื่อผู้ป่วยหยุดพักการเดินสัก 2-3 นาที แต่เมื่อเดินต่อสักพักก็จะกำเริบอีก หากยังฝืนเดินต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะปวดมากขึ้น จนอาจเดินขาลาก ทำให้ผู้ป่วยจำเป็นต้องหยุดเดิน

ทั้งนี้เนื่องจากการเดิน กล้ามเนื้อขาต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้นจากขณะพัก (ไม่ได้เดิน) แต่เพราะหลอดเลือดแดงขาตีบ เลือดจึงไม่สามารถไปเลี้ยงกล้ามเนื้อขาได้พอกับความต้องการ เราเรียกอาการปวดขาในลักษณะนี้ว่า "อาการปวดขาเป็นระยะเพราะขาดเลือด (intermittent claudication)"

บางคนอาจไม่มีอาการปวดขาเป็นระยะดังกล่าว แต่อาจมีเพียงอาการหนักขา ขาไม่มีแรงหรือขาอ่อน ทำให้คิดว่าเป็นเพียงอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการเดิน หรือจากอายุที่มากขึ้น

บางรายอาจมีอาการเป็นตะคริวที่น่องบ่อย ซึ่งอาจเกิดขึ้นแม้แต่ในช่วงเข้านอนตอนกลางคืน

เมื่อหลอดเลือดแดงขาตีบมากขึ้น ก็จะมีอาการปวดขามากขึ้น เดินได้ระยะสั้นกว่าเดิมก็จะมีอาการปวด ทำให้ผู้ป่วยเดินได้ช้าลง หรือเดินไกลไม่ได้ มีผลทำให้ดำเนินชีวิตได้ไม่ปกติ หรือเล่นกีฬาที่ต้องเดินไม่ได้

หากปล่อยไว้จนมีการตีบของหลอดเลือดที่รุนแรง ก็จะมีอาการปวดขา แม้อยู่เฉย ๆ หรือเวลานอนราบหรือยกเท้าสูง อาจเป็นมากถึงขั้นนอนไม่หลับ

นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการอื่น ๆ ตามมา ได้แก่ ขาข้างที่เป็นมีอาการชาหรืออ่อนแรง ซีดกว่าปกติ หรือมีสีผิวเปลี่ยนไป คลำดูขาข้างที่เป็นรู้สึกเย็นกว่าปกติ ผิวหนังที่บริเวณขาดูมันวาวกว่าปกติ ขนและเล็บงอกช้ากว่าขาข้างที่ปกติ เกิดแผลที่ปลายเท้าเรื้อรังและหายยาก กล้ามเนื้อขาลีบลงกว่าปกติ ชีพจรที่ขาและเท้าของขาข้างที่เป็นคลำได้เบาหรือไม่ได้

ผู้ชายบางคนอาจมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย (องคชาตไม่แข็งตัว) ร่วมด้วย


ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบบ่อยคือ การเป็นแผลเรื้อรังที่ขา อาจเกิดการติดเชื้อ และกลายเป็นเนื้อตายเน่า (gangrene) ซึ่งอาจจำเป็นต้องตัดนิ้วเท้าหรือข้อเท้า เกิดความพิการได้ มักพบในผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่ได้รักษาอย่างจริงจัง

ผู้ป่วยมักมีภาวะหลอดเลือดแดงตีบที่อวัยวะอื่นร่วมด้วย หากปล่อยไว้ก็อาจเกิดโรคอื่น ๆ ตามมา ที่สำคัญ ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (พบได้ประมาณร้อยละ 30-50 ของผู้ที่เป็นหลอดเลือดแดงขาตีบ) โรคหลอดเลือดสมอง (พบได้ประมาณร้อยละ 15-25 ของผู้ที่เป็นหลอดเลือดแดงขาตีบ) หลอดเลือดแดงไตตีบ (renal artery stenosis) ไตวายเรื้อรัง

ในรายที่มีการตีบของหลอดเลือดแดงขาที่รุนแรง อาจเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดแดงขาแทรกซ้อนอย่างเฉียบพลัน ทำให้ขาเกิดภาวะขาดเลือดอย่างรุนแรง เกิดภาวะที่เรียกว่า "Acute limb ischemia (ALI)" ขาข้างที่เป็นจะมีอาการปวด (ขณะพักอยู่เฉย ๆ) ซีด เย็น ชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง และชีพจรเบา ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล และมีความเสี่ยงต่อการเกิดความพิการจากการตัดขา หรือการเสียชีวิต


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการและสิ่งตรวจพบ ได้แก่ การคลำชีพจรที่เท้าพบว่าเบาหรือคลำไม่ได้ เท้าซีดและเย็นกว่าปกติ กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง กล้ามเนื้อขาลีบลงกว่าปกติ แผลเรื้อรังที่เท้า

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดด้วยการตรวจพิเศษ เช่น ทำการทดสอบด้วยการวัดความดันโลหิตที่เท้าเทียบกับที่ต้นแขน ดังที่เรียกว่า "Ankle-Brachial Index (ABI) Test" ซึ่งมักพบว่าความดันโลหิตที่เท้ามีค่าต่ำกว่าที่ต้นแขน (ค่า ABI < 0.90) มีค่ายิ่งต่ำ แสดงว่าโรคยิ่งรุนแรง, การตรวจวัดการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดแดงขาด้วยอัลตราซาวนด์ (Doppler ultrasound), การถ่ายภาพหลอดเลือด (angiography) ด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, การตรวจเลือด (ดูระดับน้ำตาล ไขมัน) เป็นต้น

ในรายที่วินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบ แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติมเกี่ยวกับความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคไตเรื้อรัง เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้ยารักษาโรคที่เป็นสาเหตุ (เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง), ให้ยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน, โคลพิโดเกรล (clopidogrel) ป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดจับเป็นลิ่มอุดตันหลอดเลือด, ให้ยาเพิ่มการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงขา (เช่น cilostazol ลดอาการปวดขาเป็นระยะเพราะขาดเลือด ช่วยให้เดินได้ระยะไกลขึ้น) เป็นต้น

นอกจากนี้แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรม เช่น งดบุหรี่, ลดอาหารหวาน มัน เค็ม, ลดน้ำหนัก, ผ่อนคลายความเครียด, ออกกำลังกาย

แพทย์อาจแนะนำให้ออกกำลังด้วยการเดินวันละ 30-45 นาที สัปดาห์ละ 4-5 วัน เดินด้วยความเร็วตามปกติ เมื่อสังเกตว่าเริ่มมีอาการปวดขาให้หยุดเดิน เมื่อรู้สึกทุเลาปวดให้เดินต่อ เดิน ๆ หยุด ๆ สลับกันจนครบ 30-45 นาที การเดินช่วยให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงขาได้มากขึ้น ทำให้เดินได้ไกลขึ้น

หากการรักษาข้างต้นไม่ได้ผล แพทย์อาจทำการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การผ่าตัดบายพาส (โดยใช้หลอดดำของผู้ป่วยเอง หรือหลอดเลือดเทียม), การทำบัลลูนและใส่หลอดเลือดตาข่าย (stent) ค้ำยันภายในหลอดเลือด, การฉีดยาละลายลิ่มเลือดเข้าไปในหลอดเลือดตรงจุดที่มีลิ่มเลือดอุดตัน

ผลการรักษา หากได้รับการวินิจฉัยและการรักษาตั้งแต่ระยะแรก ก่อนมีอาการแสดง และไม่มีโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองร่วมด้วยอย่างต่อเนื่อง มักได้ผลดี

แต่ถ้าได้รับการรักษาในระยะที่มีอาการ ผลการรักษาขึ้นกับสภาพของผู้ป่วย ในรายที่มีหลอดเลือดหัวใจหรือสมองตีบร่วมด้วย ก็อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดความพิการหรือการเสียชีวิตจากโรคเหล่านี้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดขาเวลาเดินหรือขึ้นบันได เป็นตะคริวที่น่องบ่อย ปวดขาตอนนอนราบหรือตอนกลางคืน ขามีลักษณะซีด เย็น กล้ามเนื้อขาลีบหรืออ่อนแรง หรือคลำชีพจรที่เท้ามีลักษณะเบาหรือคลำไม่ได้ มีแผลเรื้อรังที่ขา เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

นอกจากนี้ เนื่องจากผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบในระยะแรกมักจะไม่มีอาการแสดงใด ๆ ดังนั้น ผู้ที่สบายดี ไม่มีอาการปวดขาและอาการอื่นใด ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจกรองโรคนี้ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้

    มีอายุมากกว่า 65 ปี
    มีอายุมากกว่า 50 ปี ซึ่งป่วยเป็นเบาหวาน หรือสูบบุหรี่
    มีอายุน้อยกว่า 50  ปี ซึ่งป่วยเป็นเบาหวาน และมีปัจจัยเสี่ยงอื่นร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง อ้วน เป็นต้น

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบ ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

ข้อปฏิบัติตัว ที่สำคัญ ได้แก่ 

    งดบุหรี่
    ลดอาหารหวาน มัน เค็ม กินผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว เต้าหู้ ปลาให้มาก ๆ
    ลดน้ำหนัก ถ้าน้ำหนักเกิน
    ผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกาย ด้วยการเดินให้มาก ๆ ตามวิธีที่แพทย์แนะนำ วันละ 30-45 นาที สัปดาห์ละ 4-5 วัน (อ่านเพิ่มเติมที่หัวข้อ "การรักษา" ด้านบน)
    หมั่นดูแลเท้าไม่ไห้เกิดแผล (เช่น ระมัดระวังในการตัดเล็บ สวมใส่รองเท้าที่พอดีกับเท้า ระวังไม่ให้ถูกของมีคมบาด) เพราะหายยากเนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง
    หลีกเลียงการซื้อยามาใช้เอง เนื่องเพราะยาบางชนิด เช่น กลุ่มสูโดเอฟีดรีน (pseudoephedrine) ซึ่งนิยมใช้รักษาโรคหวัด คัดจมูก โรคภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ อาจทำให้หลอดเลือดตีบมากขึ้น ปวดขามากขึ้นได้


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการปวดขามากขึ้น
    ขามีลักษณะซีด เย็น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชา หรือเป็นแผลเรื้อรัง
    มีอาการเจ็บหน้าอก ใจสั่น เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือแขนขาซีกหนึ่งมีอาการชาหรืออ่อนแรง
    ขาดยาหรือยาหาย
    สงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยาที่แพทย์ให้กิน เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ใจสั่น ท้องเดิน เป็นต้น
    มีความวิตกกังวล

การป้องกัน

    ไม่สูบบุหรี่
    รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
    ลดอาหารมัน หวาน เค็ม กินผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว เต้าหู้ ปลาให้มาก ๆ
    ถ้าเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง ควรดูแลรักษาให้สามารถควบคุมโรคได้ดีอย่างต่อเนื่อง

ข้อแนะนำ

1. ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบจะรู้สึกสบายดี ไม่มีอาการปวดขาและอาการผิดปกติอื่นใด จะมีอาการปวดขาเมื่อหลอดเลือดตีบมากแล้ว และอาจมีโรคหลอดเลือดหัวใจหรือสมองตีบแฝงอยู่ร่วมด้วย (โดยไม่มีอาการ) ดังนั้นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งและตีบ ถึงแม้สบายดีก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจกรองโรค และรับการรักษาแต่เนิ่น ๆ

2. โรคนี้มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ (อ่านเพิ่มเติมที่หัวข้อ "สาเหตุ" ด้านบน) ที่สำคัญ ได้แก่ การเป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ การสูบบุหรี่ การมีอายุมาก ยิ่งมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง เช่น ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และป่วยเป็นโรคเบาหวาน ร่วมกับการสูบบุหรี่ หรือความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง ก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากขึ้น ดังนั้น ควรป้องกันการเกิดโรคนี้ด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงให้มากที่สุด (อ่านเพิ่มเติมที่หัวข้อ "การป้องกัน" ด้านบน)

3. โรคนี้มีความรุนแรงค่อนข้างมาก เนื่องเพราะมักตรวจพบเมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดขาแล้ว และขามักมีภาวะขาดเลือดเรื้อรังมานาน มักทำให้เกิดแผลเรื้อรัง ซึ่งนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน ถึงขั้นต้องตัดขา นอกจากนี้ อาจพบโรคหลอดเลือดหัวใจหรือสมองตีบร่วมด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุของความพิการหรือการเสียชีวิตจากโรคเหล่านี้

4. ผู้ที่มีอาการปวดขาหรือเป็นตะคริวบ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง อย่าชะล่าใจว่าเป็นเพียงอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือไม่เป็นอะไรมาก แต่ควรไปปรึกษาแพทย์เพี่อตรวจให้แน่ใจว่าเป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบหรือไม่

6
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)

ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


7
รถขนของไปต่างจังหวัด กระบะ 4 ล้อ 6ล้อราคาถูก จัดรวมให้เรียบร้อย

รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด

จะดีมากแค่ไหนถ้าเราจะใช้บริการ รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด โดยที่เราสามารถเรียกใช้รถขนของช่วงเวลาไหนก็ได้ โดยที่ไม่ติดในเรื่องของเวลาในการขนย้ายและมีรถรับจ้างพร้อมที่ให้บริการเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งงานบริการในลักษณะดังกล่าวนี้จะทำให้เรามีความสะดวกมีความคล่องตัวที่ต้องการอยากจะใช้รถรับจ้างหรือมีความจำเป็นที่จะต้องขนย้ายของแบบเร่งด่วน ถ้าหากว่ามีผู้ให้บริการในลักษณะดังกล่าว การขนย้ายของของเราจะเป็นเรื่องที่ง่ายโดยทันที โดยเฉพาะการขนย้ายสินค้าที่มีปริมาณมากๆต้องการขนย้ายของชิ้นใหญ่ หรือขนย้ายของจุกจิกจำนวนมากมาย เราก็อยากจะได้ รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ที่ให้บริการพร้อมคนยกไปด้วยจะดีมาก เช่น งานขนย้ายบ้าน ขนย้ายหอพัก ขนย้ายวัสดุก่อสร้าง ขนย้ายครัว ย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนส่งสินค้าทั่วไป
ซึ่งทุกงานที่กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นงานขนย้ายที่ต้องการใช้รถรับจ้างขนของที่มีขนาดใหญ่และมีความปลอดภัย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วรถที่ให้บริการขนย้ายของไปต่างจังหวัดก็จะมีประเภทของ รถกระบะรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด และ รถ 6 ล้อรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ถือว่าเป็นรถรับจ้างที่ยอดฮิตของผู้ใช้บริการอย่างแท้จริง
เรามาดูว่า รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ที่ดูแล้วมีคุณสมบัติตามที่ท่านต้องการมากน้อยแค่ไหน และแต่ละผู้ให้บริการมีจุดเด่นที่ต่างกันออกไปอย่างไรกันบ้างซึ่งได้แก่

    บริการรับจ้างขนของทั้งชิ้นเล็กและชิ้นใหญ่ ด้วย รถกระบะรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด จุดเด่นคือ มีรถกระบะรับจ้างขนของไปต่างจังหวัดจำนวนมาก พร้อมที่จะให้บริการตลอดเวลา การขนย้ายที่มีความรวดเร็ว
    บริการรถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัดทุกชนิดทุกประเภท เช่น รถกระบะรับจ้าง รถ 6 ล้อรับจ้าง รถเฮียบรับจ้าง รถรับจ้างย้ายบ้าน จุดเด่นคือ รับจ้างขนย้ายของทุกอย่าง ไปได้ทุกจังหวัด มีพนักงานยกสินค้าให้
    วับริการขนย้ายของขนาดใหญ่ และจำนวนมาก เช่น ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายเครื่องจักร ขนย้ายต้นไม้ รับฝากส่งของไปต่างจังหวัด จุดเด่นคือ สามารถรับฝากสินค้าได้แม้ชิ้นขนาดเล็ก เช่น ทีวี ตู้เย็น มอเตอร์ไซค์ กล่องสินค้า และกระจายสินค้าได้ทั่วไทย

   
รถกระบะรับจ้างไปต่างจังหวัด

ถือว่าเป็นรถรับจ้างขนาดเล็กและมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากด้วยความที่ราคาค่าบริการที่ไม่แพง รถกระบะรับจ้างไปต่างจังหวัด จึงเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของผู้ใช้บริการมากมายมีความสะดวกความคล่องตัว ในการให้บริการเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะขนย้ายไปที่ไหนจุดพื้นที่ในการรับส่งสินค้าจะเข้ายากลำบาก หรือมีซอยขณะที่เล็ก ก็ไม่ใช่อุปสรรคของรถกระบะรับจ้าง ด้วยขนาดของรถรับจ้างที่มีขนาดไม่ใหญ่และมีความสูงที่ไม่มาก จึงทำให้งานขนย้ายของที่เข้ายากหรือเดินทางลำบากสามารถที่จะเข้ารับสินค้าได้โดยง่าย
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว รถกระบะรับจ้างไปต่างจังหวัด จะให้บริการทั้งในเขตพื้นที่และสามารถขนย้ายของไปต่างจังหวัดได้โดยผู้ใช้บริการ สามารถที่ติดต่อการให้บริการของรถรับจ้างได้โดยตรงจากผู้ให้บริการเพื่อพูดคุยรายละเอียดต่างๆก่อนว่าจ้างที่จะขนย้าย

   
รถรับจ้างขนของกรุงเทพ

หากเราจะใช้บริการรถรับจ้างที่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ สิ่งที่เราจะต้องทำการค้นหาผ่าน Google หรือ Facebook ควรจะใช้คำว่าอะไร โดยปกติคนส่วนมากจะค้นหาด้วยคำว่า รถรับจ้างขนของกรุงเทพ ซึ่งจะได้รถรับจ้างที่ตรงและอยู่ใกล้ตัวคุณมากที่สุด การที่เราใช้คำค้นหาที่ตรงและใกล้จะทำให้เราได้รถรับจ้างที่รวดเร็วและเป็นรถรับจ้างที่สามารถเข้าหน้างานขนย้ายของให้กับเราได้ทันเวลาตามที่เรากำหนด
โดยเฉพาะงานที่ต้องขนย้ายแบบเร่งด่วน รถรับจ้างขนของกรุงเทพ จะสามารถทำเวลาให้กับเราได้และหากเป็นรถที่มีขนาดเล็กอย่างเช่นรถกระบะก็ยิ่งไม่ติดเวลา ทำให้การขนย้ายของเรานั้นเสร็จและจบงานได้ตามเวลาที่กำหนด

   
รถรับจ้างขนของ ใกล้ฉัน

คุณรู้หรือไม่ว่าปัจจุบันนี้ผู้ที่มีความสนใจใช้บริการรถรับจ้างขนของนั้นชอบค้นหาด้วยคำว่าอะไรบ้าง โดยปกติแล้วถ้าหากเราต้องการใช้รถที่อยู่ในพื้นที่หรือการขนย้ายในระยะทางที่ไม่ไกลอยู่ใกล้ๆตัวเราและขนย้ายของประเภท ย้ายหอ ย้ายบ้าน ย้ายคอนโด ขนย้ายสินค้า จะชอบพิมพ์ด้วยคำว่า รถรับจ้างขนของ ใกล้ฉัน ซึ่งจะทำให้เราได้รถรับจ้างที่มีความ รวดเร็วในการวิ่งเข้าหน้างานและที่สำคัญราคาค่าบริการก็ไม่แพง เนื่องจากเป็นรถที่อยู่ในพื้นที่ที่ใกล้เรามากที่สุดดังนั้นการเรียกใช้บริการ รถรับจ้างขนของ ใกล้ฉัน จึงต้องมีการศึกษาและหาข้อมูลเกี่ยวกับ คำค้นหาที่จะทำให้เราประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด

ถ้าจะพูดถึงรถรับจ้างที่มีขนาดใหญ่และขนของได้ในจำนวนที่มากๆคงจะหนีไม่พ้น รถ 6 ล้อรับจ้างไปต่างจังหวัด ซึ่งรถรับจ้างประเภทนี้ สามารถที่จะขนย้ายของย้ายสินค้าได้ทีละมากๆโดยเฉพาะงานขนย้ายประเภท วัสดุก่อสร้าง ขนย้ายนั่งร้าน ขนย้ายแคมป์งานก่อสร้าง ขนย้ายบ้าน ขนย้ายสินค้าทางการเกษตร ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องการใช้รถรับจ้างที่มีขนาดใหญ่ อย่างเช่นงาน ขนย้ายบ้านหรือแคมป์งานก่อสร้าง ซึ่งจะมีของที่ทำการขนย้ายก็จะเป็นพวกเสื้อผ้า ของใช้ ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น ทีวี มอเตอร์ไซค์ ที่นอน เตียงนอนเป็นต้น
ดังนั้นสำหรับ รถ 6 ล้อรับจ้างไปต่างจังหวัด ไม่เพียงแค่สินค้าจะมีปริมาณมากเพียงอย่างเดียวเท่านั้น การจัดเรียงสินค้าบนรถก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเพราะผู้ใช้บริการจำเป็นจะต้องขนย้ายของให้จบภายในเที่ยวเดียวเพื่อที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย โดยไม่มีการขนย้ายเพิ่มอีกรอบ การจัดเรียงสินค้าจึงถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากเป็นอันดับรองลงมาของการให้บริการ โดยผู้ให้บริการจะต้องมีทีมงานหรือคนจัดเรียงสินค้าที่มีความเป็นมืออาชีพมีความจริงในการจัดสรรบริหารการขนย้ายของให้เป็นอย่างดีเพื่อให้ลูกค้ามีความคุ้มค่าในการใช้บริการรถ 6 ล้อรับจ้างให้ได้มากที่สุด

   
รถรับจ้างขนของทั่วไป

มีรถรับจ้างหลายแบบหลายชนิดที่พร้อมจะให้บริการ รถรับจ้างขนของทั่วไป ซึ่งรถรับจ้างประเภทนี้ก็จะมีความหลากหลายในการให้บริการไม่ว่าจะเป็นทั้ง แบบคอกสูงหรือแบบตู้ทึบ และก็ยังมีรถที่มีขนาดที่แตกต่างกันลงไปอีกเช่น รถกระบะรับจ้างขนของทั่วไปแบบคอกสูง หรือ รถกระบะรับจ้างขนของแบบตู้ทึบ รถ 6 ล้อรับจ้างคอกสูง รถ 6 ล้อรับจ้างขนของตู้ทึบ ซึ่งนอกเหนือจากนี้ก็จะเป็น รถสิบล้อหรือรถพ่วง
โดยการให้บริการในแต่ละอย่างนั้นสินค้าเป็นตัวกำหนดว่า ควรจะใช้ รถรับจ้างขนของทั่วไป ประเภทไหนในการเข้าไปให้บริการ ซึ่งจะเป็นการตกลงกันระหว่างผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการโดยจะมีการปรึกษาและสอบถามรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ทำการขนย้ายว่ามีปริมาณมากหรือปริมาณน้อย ควรจะใช้รถขนของขนาดไหน ที่จะสามารถขนย้ายของให้จบภายในเที่ยวเดียว
ดังนั้นการสอบถามข้อมูลหรือรายละเอียดของการขนย้าย จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่ผู้ให้บริการจะต้องมีการสอบถามผู้ใช้บริการหรือผู้ว่าจ้างให้มีความชัดเจนก่อนที่จะทำการเสนอราคาและมีการกำหนดขนาดของรถที่มีความแน่นอนว่า จะใช้รถประเภทไหนตอนที่ทำการเสนอราคาค่าบริการ รถรับจ้างขนของทั่วไปให้กับลูกค้า

   
รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาเท่าไหร่

ก่อนที่จะมีการว่าจ้างรถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัดนั้น สิ่งที่ผู้ว่าจ้างมีความกังวลมากที่สุดนั่นก็คือราคาค่าบริการว่าจะจ่ายค่ารถอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจของผู้ใช้บริการว่าถ้าจะจ้าง รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาเท่าไหร่ ซึ่งสิ่งที่เป็นข้อกำหนดสำหรับการคิดเรทราคาของรถรับจ้างขนของโดยทั่วไปนั้น ก็จะอยู่ที่หลักๆไม่กี่อย่างนั้นก็คือ

    ขนาดของรถรับจ้าง นั่นหมายถึงใช้ รถกระบะหรือ รถ 6 ล้อ หรือรถสิบล้อ
    ระยะทางในการขนย้าย ซึ่งไปต่างจังหวัดนั้นไประยะทางกี่กิโลเมตร ระยะทางที่ไกลกว่าก็ย่อมมีราคาที่สูงกว่าเป็นเรื่องปกติ
    คิดราคาที่เป็นเรทในเรื่องของคนยกสินค้า ซึ่งการขนย้ายนั้นต้องการคนยกสินค้าด้วยหรือไม่ซึ่งการจ้างคนยกของนั้นก็จะมีราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นตามรายละเอียดของงาน

ดังนั้น ถ้าหากเราจะสอบถามค่าบริการ รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาเท่าไหร่ ถ้าหากท่านต้องการอยากจะได้ข้อมูลที่แน่นอน สามารถที่จะติดต่อผู้ให้บริการได้โดยตรงเนื่องจากว่าราคาค่าบริการในแต่ละครั้งจะมีเรทราคาที่ปรับเปลี่ยนไป อาจจะไม่คงที่ขึ้นอยู่กับ ราคาน้ำมัน ที่มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา หรือถ้าหากว่าต้องการอยากจะทราบราคาค่าบริการคร่าวๆสามารถเข้าไปดูได้ที่หน้า Home page โดยทางผู้เขียนได้ระบุคร่าวๆไว้ในรายละเอียดการเสนอราคาไว้อย่างเรียบร้อย

   
รถรับจ้างขนของนนทบุรี ไปต่างจังหวัด

ด้วยความพยายามของผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของในปัจจุบันต้องการที่จะขนย้ายของให้มีความครอบคลุมในเขตพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดในพื้นที่ที่รถให้บริการ รวมไปจนถึงต่างจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่อันใกล้หรือวิ่งขนย้ายของไปต่างจังหวัด นั่นถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อผู้ให้บริการรถรับจ้างเป็นอย่างมากที่มีความพร้อมที่จะให้บริการรถรับจ้างขนย้ายของในพื้นที่ต่างๆยกตัวอย่างเช่น รถรับจ้างขนของนนทบุรี ไปต่างจังหวัด ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดในเขตปริมณฑลที่มีการให้บริการรถรับจ้างขนของจำนวนมากมายที่พร้อมจะให้บริการลูกค้าได้อย่างทันทีและเร่งด่วนตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการ โดยที่ รถรับจ้างขนของนนทบุรี ไปต่างจังหวัด จะมีรถรับจ้างที่มีขนาดแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการว่าจ้างของลูกค้าไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้างขนของนนทบุรีไปต่างจังหวัด หรือรถ 6 ล้อรับจ้างขนของนนทบุรีไปต่างจังหวัด รถรับจ้างขนย้ายบ้านนนทบุรีไปต่างจังหวัด หรือรถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัดอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถกำหนดและพิจารณาการว่าจ้างได้เลยทันที

   
รถขนของไปต่างจังหวัด ราคาถูก

โดยปัจจุบันนี้ส่วนมากงานขนย้ายบริการรถรับจ้างขนของที่ให้บริการมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆของประเทศ คงหนีไม่พ้น รถขนของไปต่างจังหวัด ทำให้เกิดการแข่งขันในเรื่องของราคาเกิดขึ้น ความหมายนั่นก็คือมีผู้ที่ต้องการอยากจะใช้บริการ รถขนของไปต่างจังหวัด ราคาถูก โดยที่จุดต้นทางในการขึ้นของอาจจะอยู่ที่กรุงเทพฯหรือจังหวัดต่างๆ ซึ่งต้องการจะขนย้ายจากกรุงเทพไปยังต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายสินค้าโรงงาน ขนย้ายของ ขนย้ายบ้าน ขนย้ายหอพัก ย้ายคอนโด และขนย้ายของทั่วไป ซึ่งต้องการที่อยากจะได้รถรับจ้างที่สามารถขนย้ายสินค้าให้จบภายในเที่ยวเดียว แล้ววิ่งไปส่งของที่ปลายทางยังต่างจังหวัด

โดยปัจจุบันก็จะมี รถขนของไปต่างจังหวัด ราคาถูก ที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นระดับต้นๆ คงหนีไม่พ้น รถกระบะรับจ้างขนของไปต่างจังหวัดราคาถูก และ รถ 6 ล้อรับจ้างขนของไปต่างจังหวัดราคาถูก ดังกล่าวนี้ผู้ว่าจ้างสามารถที่ติดต่อหรือประสานงานกับผู้ให้บริการได้โดยง่าย เนื่องจากมีรถรับจ้างที่คอยให้บริการเป็นจำนวนมากในแต่ละจังหวัด ซึ่งจะมีจุดให้บริการของรถรับจ้างพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง


8
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


9
รถรับจ้างขนย้ายบ้าน รถรับจ้างขนของอุดรธานี มีให้บริการที่ไหนบ้าง

ในยุคที่การเคลื่อนย้ายสินค้าและของโดยใช้บริการของรถรับจ้างเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก บริการขนส่งที่มีความเชื่อถือและมีประสิทธิภาพกลับกลายเป็นจุดสำคัญอีกต่อไป เฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคอุดรธานี ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการคมนาคมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ด้วยความสะดวกสบายและความมั่นใจในการขนส่ง รถรับจ้างขนของอุดรธานีขนส่ง ได้เข้ามาเป็นผู้นำในวงการขนส่งในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง

โดยทาง รถรับจ้างขนของอุดรธานีขนส่ง มีการให้บริการขนส่งอย่างหลากหลายทั้งในลักษณะของสินค้าทั่วไปและสินค้าที่มีความพิเศษ รวมถึงบริการในรูปแบบต่างๆ เช่น การขนส่งด่วน การขนส่งแบบประชุม หรือการขนส่งสินค้าในปริมาณขนาดใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกๆ สถานการณ์และความต้องการที่แตกต่างกันไปรถรับจ้างย้ายหอราคาถูก

ในบทความนี้ เราจะสำรวจภูมิภาคของการให้บริการขนส่งของ รถรับจ้างขนของอุดรธานีขนส่ง และสำรวจเครือข่ายที่มีอยู่ของพวกเขาทั้งในระดับภูมิภาคและระดับชาติ มองผ่านมุมของความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพ และคุณภาพบริการที่มีให้กับลูกค้าในทุกๆ สถานการณ์ มาร่วมสำรวจกับเราเพื่อค้นหาคำตอบว่า รถรับจ้างขนของอุดรธานีขนส่ง มีให้บริการที่ไหนบ้าง และทำไมพวกเขาถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการขนส่งของคุณ
รถรับจ้างขนของอุดรธานีขนส่ง มีให้บริการที่ไหนบ้าง

รถรับจ้างขนของอุดรธานีขนส่ง เป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งที่มีเครือข่ายและครอบคลุมหลากหลายพื้นที่ในจังหวัดอุดรธานี รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง บริการของพวกเขาออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการขนของภายในจังหวัด การขนของข้ามจังหวัด หรือแม้แต่การขนของในระดับภูมิภาค ดังนั้นนี่คือพื้นที่ที่รถรับจ้างขนของอุดรธานีขนส่ง มีให้บริการ


1. ในตัวเมืองอุดรธานี

บริการรถรับจ้างขนของในเมืองอุดรธานี สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการขนย้ายของในพื้นที่เมือง ไม่ว่าจะเป็นการย้ายบ้าน ขนของเข้าหอพัก หรือขนย้ายสำนักงานภายในเขตเมือง


2. เขตอำเภอรอบนอก

รถรับจ้างขนของอุดรธานีขนส่ง มีเครือข่ายที่ครอบคลุมอำเภอรอบนอก เช่น อำเภอกุมภวาปี อำเภอบ้านผือ อำเภอหนองหาน และอำเภอน้ำโสม ให้บริการขนย้ายสินค้าและของในบริเวณต่าง ๆ รอบเมืองอุดรธานี


3. ขนส่งข้ามจังหวัด

สำหรับการขนของที่ต้องเดินทางข้ามจังหวัด ขนส่ง ก็มีบริการให้ลูกค้าเพื่อการขนย้ายไปยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น หนองคาย ขอนแก่น หรือสกลนคร ซึ่งช่วยให้การขนส่งในภูมิภาคนี้สะดวกสบายยิ่งขึ้น


4. บริการด่วนและพิเศษ

นอกจากการขนส่งในระดับท้องถิ่นและข้ามจังหวัดแล้ว บริการของขนส่ง ยังสามารถรองรับการขนส่งด่วน การขนส่งสินค้าหนัก หรือสินค้าเฉพาะทาง เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องจักร ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์และรถรับจ้างที่หลากหลาย

ด้วยความครอบคลุมของพื้นที่ให้บริการเหล่านี้ รถรับจ้างขนของอุดรธานี พีชภูรีขนส่ง จึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการขนของเล็กน้อยหรือขนส่งขนาดใหญ่ ความหลากหลายของบริการนี้ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักสำหรับการขนของในอุดรธานีและพื้นที่ใกล้เคียงรถกระบะรับจ้างย้ายหอ
ราคา บริการรถรับจ้างขนของอุดรธานี

การตั้งราคาในการให้บริการรถรับจ้างขนของอุดรธานี มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถส่งผลต่อราคาสุดท้ายที่ลูกค้าต้องจ่ายได้ นี่คือปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อการกำหนดราคาของบริการดังกล่าว

    ระยะทาง : ระยะทางระหว่างจุดเริ่มต้นและจุดปลายทางเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคา ยิ่งระยะทางไกลมากเท่าไหร่ ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
    ประเภทของรถที่ใช้ : บริการรถรับจ้างมีหลายประเภท ตั้งแต่รถปิกอัพ รถหกล้อ รถสิบล้อ ไปจนถึงรถพ่วงและรถเทรลเลอร์ ประเภทของรถที่ใช้จะขึ้นอยู่กับปริมาณและประเภทของสิ่งของที่ต้องการขนส่ง รถที่ใหญ่กว่าจะมีราคาสูงกว่า
    ปริมาณและประเภทของสินค้า : หากสินค้ามีปริมาณมากหรือมีความพิเศษ เช่น ของเปราะบางหรือของที่ต้องการการขนส่งแบบพิเศษ อาจส่งผลให้ราคาสูงขึ้น
    การใช้แรงงานเพิ่มเติม : หากการขนของต้องการแรงงานเพิ่มเติม เช่น การยกของขึ้นลงจากชั้นสูง หรือการจัดเรียงสินค้า ราคาก็อาจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
    ช่วงเวลาและวันของบริการ : บางช่วงเวลาอาจมีความต้องการบริการสูงกว่า เช่น ช่วงวันหยุดหรือช่วงสิ้นเดือน เมื่อความต้องการเพิ่มขึ้น ราคาก็อาจสูงขึ้นตามไปด้วย
    บริการเสริม : บริการเสริมอื่นๆ เช่น การห่อหุ้มสินค้า การจัดส่งด่วน หรือการจัดเตรียมบรรจุภัณฑ์ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ด้วยเหตุนี้ การกำหนดราคา บริการรถรับจ้างขนของอุดรธานี จึงเป็นการปรับให้เข้ากับปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ในการประเมินราคา ลูกค้าสามารถสอบถามทางผู้ให้บริการโดยตรง โดยให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น จุดเริ่มต้นและจุดปลายทาง ประเภทและปริมาณของสิ่งของ รวมถึงบริการเพิ่มเติมที่ต้องการ เพื่อให้ได้ราคาที่แน่นอนและเหมาะสมสำหรับการขนส่งของคุณรถรับจ้างขนของราคาถูก

ค้นหาความสะดวกสบายในการขนของกับ "ขนส่ง" ในอุดรธานี!

คุณกำลังมองหาบริการรถรับจ้างที่เชื่อถือได้สำหรับการขนของในอุดรธานีหรือไม่? ไม่ว่าคุณจะย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน หรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ "ขนส่ง" พร้อมช่วยเหลือคุณ!

ทำไมต้องเลือก "ขนส่ง"

    บริการหลากหลาย : เรามีรถรับจ้างทุกขนาด ตั้งแต่ปิกอัพ หกล้อ ถึงสิบล้อ พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของคุณ
    ทีมงานมืออาชีพ : พนักงานของเรามีความชำนาญและประสบการณ์ในการขนของอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว
    ราคาที่สมเหตุสมผล : เรามีการกำหนดราคาที่ยุติธรรมและโปร่งใส ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
    ความยืดหยุ่น : ไม่ว่าคุณต้องการบริการในวันธรรมดา วันหยุด หรือช่วงเวลาเร่งด่วน เราก็พร้อมให้บริการตามที่คุณต้องการ
    บริการทั่วอุดรธานีและข้ามจังหวัด : เราให้บริการในพื้นที่เมืองและอำเภอรอบนอก รวมถึงการขนส่งไปยังจังหวัดใกล้เคียง

สิ่งที่คุณจะได้รับจากเรา

    ความสบายใจ : คุณสามารถไว้วางใจในคุณภาพการขนส่งของเรา สิ่งของของคุณจะถึงปลายทางอย่างปลอดภัย
    การบริการที่ยอดเยี่ยม : เราใส่ใจลูกค้าและพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการขนของที่เหมาะสมกับคุณ
    ความรวดเร็ว : เราเข้าใจว่าคุณต้องการบริการที่รวดเร็ว เราจึงมุ่งเน้นที่การจัดการเวลาที่มีประสิทธิภาพ

10
จัดฟันเด็ก อันตรายหรือไม่

ในเรื่องของสุขาพช่องปากและฟันของเด็ก เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องคอยสังเกตและให้คำแนะนำถึงวิธีการทำความสะอาดช่องปากและหันอย่างถูกวิธี เพราะเด็กส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องของฟันผุ เนื่องจากได้รับการทำความสะอาดช่องปากและฟันที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น การทำควมาสะอาดช่องปากและฟันของเด็ก พ่อแม่อย่าคิดว่าไม่สำคัญ ถึงแม้ว่าบุตรหลานของท่านจะอยู่ในวัยของฟันน้ำนม เพราะถ้าหากดุแลฟันน้ำนมไม่ดี อาจจะทำให้ส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ได้ ซึ่งเมื่อฟันแท้ขึ้นแบบผิดปกติ อาจจะส่งผลระยะยาวเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันได้ เพราะการที่เรามีปัญหาในเรื่องของการเรียงตัวของฟัน อาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของลูก เพราะจะทำให้เด็กไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กและอาจจะส่งผลต่อสุขภาพช่องปากเด็กด้วย

และถ้าหากบุตรหลานของ่ทานมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน หรือมีความผิดปกติ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีความผิดปกติของฟันได้ ตั้งแต่ยังมีฟันน้ำนมเลย ส่วนใหญ่พ่อแม่ที่ตัดสินใจจะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับกการจัดฟันในเด็ก อาจจะมีความกังวลว่า บุตรหลานของท่านจะได้รับอันตรายหรือไม่ ต้องบอกก่อนว่า ความผิดปกติของฟันที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มาจาก ลักษณะนิสัยที่มีความผิดปกติในการบดเคี้ยว เช่น เคี้ยวข้าวข้างเดียวตลอดเวลา หรือ บางกรณีก็จะเป็นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพของร่างกาย การเจริญเติบโตที่ผิดปกติของขากรรไกร โดยการจัดฟันก็จะช่วย ทำให้ฟันนั้นมีความสวยงามเป็นระเบียบ พร้อมกับทำให้ฟันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยและวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการจัดฟันในเด็กว่า มีอันตรายต่อเด็กหรือไม่ และต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้เด็กได้รับการรักษาที่มีความปลอดภัย

ก่อนอื่นเราจะอธิบายก่อนว่า การจัดฟัน เป็นหนึ่งในประเภทการรักษาฟันที่ได้รับความนิยมาก โดยใช้หลักการในการรักษาด้วยการเคลื่อนฟันไปยังตําแหน่งที่เหมาะสม โดยอาศัยเครื่องมือการจัดฟัน ซึ่งการจัดฟันในแต่ละแบบนั้น ก็จะมีความแตกต่างกัน ซึ่งทันตแพทย์จะพิจารณาให้อย่างเหมาะสม แต่สำหรับการจัดฟันในเด็ก ก็ไม่ต่างจากการจัดฟันของผู้ใหญ่มาก เพราะใช้หลักการเดียวกัน คือมีการติดตั้งเครื่องใอเข้าไปในช่องปาก โดบเครื่องมือการจัดฟันจะเป็นตัวช่วยในการเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้เกิดการเรียงตัวของฟันที่สวยงาม สำหรับเด็กที่มีปัญหาฟันซ้อนเก หรือมีการสบฟันที่ผิดปกติ เครื่องมือจัดฟันก็จะทำให้ฟันที่มีคาวมผิดปกติเคลื่อนไปในที่ที่เหมาะสมเหมือนกัน

ดังนั้น การจัดฟันในเด็ก จึงไม่มีอันตราย และไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกายของเด็ก มีแต่จะส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ทั้งยังช่วยเสริมสร้างในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้น ก่อนที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะตัดสินใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ควรที่จะศึกษารายละเอียดและข้อมูลให้ดี เพื่อให้บุตรหลานของท่านได้รับการรักษาที่มีความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือและผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีคุณภาพที่ชีวิตที่ดี เพราะการที่เรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีนั้น นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างในเรื่องของบุคลิกภาพ ให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออก ไม่ต้องโดนเพื่อนล้อด้วย

อย่างไรก็ตาม หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดอยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการรักษาได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็ก และมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน ที่จะคอยให้คำแนะนำและวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง เพื่อให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้มีพัฒนาการที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

11
บอร์ดโพสต์ฟรี ประกาศฟรี ทั่วไป / ข้อดีของ ผ้ากันไฟ
« เมื่อ: วันที่ 9 สิงหาคม 2025, 13:40:18 น. »
ข้อดีของ ผ้ากันไฟ

ผ้ากันไฟมีข้อดีมากมายในการป้องกันอันตรายจากไฟและสะเก็ดไฟ ดังนี้ค่ะ

1. ป้องกันอันตรายจากไฟไหม้

ดับไฟขนาดเล็ก: ผ้าห่มดับไฟสามารถใช้คลุมหรือห่อหุ้มวัตถุที่กำลังลุกไหม้ เพื่อดับไฟได้อย่างรวดเร็ว โดยการตัดการเข้าถึงออกซิเจน
ป้องกันการลุกลามของไฟ: ม่านกันไฟสามารถใช้กั้นแบ่งพื้นที่ เพื่อป้องกันไฟลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ
ป้องกันความร้อน: ฉนวนกันความร้อนสามารถใช้หุ้มท่อหรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน และป้องกันความร้อนจากงานเชื่อมโลหะไม่ให้แผ่ไปยังบริเวณที่มีสารไวไฟ

2. ป้องกันอันตรายจากสะเก็ดไฟ
ป้องกันสะเก็ดไฟ: ผ้ากันสะเก็ดไฟใช้ในงานเชื่อม งานเจียร หรือตัดโลหะ เพื่อป้องกันสะเก็ดไฟกระเด็นไปโดนวัสดุไวไฟอื่นๆ
ลดความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้: ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากไฟไหม้ในสถานที่ทำงานและที่อยู่อาศัย

3. เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ: ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากไฟไหม้ในสถานที่ทำงาน
เพิ่มความมั่นใจในการทำงาน: ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานมีความมั่นใจในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้
ป้องกันการบาดเจ็บ: ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บจากสะเก็ดไฟและความร้อน

4. ลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน
ป้องกันการลุกลามของไฟ: ช่วยป้องกันไฟลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ ทำให้ลดความเสียหายต่อทรัพย์สินได้

5. ใช้งานได้หลากหลาย
ใช้ในงานดับเพลิงและกู้ภัย: ผ้ากันไฟสามารถใช้ทำเป็นชุดดับเพลิง หรืออุปกรณ์ดับเพลิงอื่นๆ เพื่อป้องกันผู้ปฏิบัติงานจากความร้อนและเปลวไฟ
ใช้ในชีวิตประจำวัน: ป้องกันการเกิดไฟไหม้จากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อนสูงเช่น เตารีด หรือเครื่องทำความร้อน และใช้ในครัวเรือนเพื่อป้องกันไฟลุกลามจากเตาแก๊ส หรือเตาอบ

6. คุณสมบัติอื่นๆ
ทนทานต่อความร้อนสูง: สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้โดยไม่ลุกไหม้หรือเสื่อมสภาพ
ไม่ติดไฟ: ทำจากวัสดุที่ไม่ติดไฟหรือลามไฟ
มีความยืดหยุ่น: สามารถคลุมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีรูปทรงต่างๆ ได้
ทนทาน: มีอายุการใช้งานยาวนาน

12
เทรนด์บริการทำความสะอาด ที่กำลังมาแรง สะอาดแบบไหนดีต่อใจคุณที่สุด ?

การทำความสะอาดไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดตามบ้าน สำนักงาน หรือสถานที่สถานที่ต่างๆ นั้นนอกจากทำความสะอาดแบบทั่วไปแล้วยังมีขั้นตอนยิบย่อยแล้วแต่สถานที่ และเทรนด์การรับทำความสะอาดแบบใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการแบบใหม่เรื่อยๆ ด้วย

ปัจจุบันเทรนด์สำคัญตั้งแต่ต้นปียันท้ายปีจะเป็นเทรนด์เกี่ยวกับการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการใช้สารเคมีน้อยที่สุดเพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้อยู่อาศัยทั่วไปและผู้ให้บริการทำความสะอาดหรือเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านทั่วไป อย่างไรก็ตามยังมีเทรนด์ต่างๆมากมายที่มีมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการอย่างทั่วถึง จึงจะพาคุณไปรู้จักกับเทรนด์การทำความสะอาดใหม่ๆ และเปิดประสบการณ์ว่าการทำความสะอาดแบบไหนที่ดีต่อใจคุณที่สุด


รวมเทรนด์ทำความสะอาดแบบใหม่ ถูกใจสายคลีนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

1. เทรนด์การทำความสะอาดแบบเป็นระบบ

การทำความสะอาดแบบระบบ เป็นการแบ่งพื้นที่บ้านออกเป็นโซนต่าง ๆ เช่น โซนห้องครัว โซนห้องนอน โซนห้องน้ำ เป็นต้น จากนั้นกำหนดตารางการทำความสะอาดเฉพาะสำหรับแต่ละโซน ช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถแบ่งโซนตามการใช้งานหรือตามพื้นที่ได้ เช่น

    โซนห้องครัว : พื้น ผนัง ตู้ครัว อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
    โซนห้องนอน : พื้น เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง
    โซนห้องน้ำ : พื้น ผนัง สุขภัณฑ์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

การทำความสะอาดแบบระบบนี้จะช่วยให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดเวลาและแรงในการทำความสะอาด ช่วยให้บ้านสะอาดและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นทั้งนี้ในกรณีที่บ้านของคุณมีพื้นที่จำกัด คุณอาจแบ่งพื้นที่บ้านออกเป็นโซนตามพื้นที่ เช่น โซนพื้น โซนผนัง โซนเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น จากนั้นกำหนดตารางการทำความสะอาดสำหรับแต่ละโซน เช่น ทำความสะอาดพื้นทุกวัน ทำความสะอาดผนังสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์เดือนละ 1 ครั้ง เป็นต้น


2. เทรนด์การทำความสะอาดแบบสมาร์ท

การทำความสะอาดแบบสมาร์ท เป็นการการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการทำความสะอาด เช่น การใช้แอปพลิเคชันสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ หรือการใช้กล้องวงจรปิดตรวจสอบความสะอาดของบ้าน เป็นต้น

การใช้แอปพลิเคชันสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ เช่น สั่งงานเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติ สั่งงานเครื่องล้างจาน เป็นต้น ช่วยให้การทำความสะอาดบ้านเป็นไปอย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ให้บริการทำความสะอาดบ้านที่ต้องลดแรงงานและใข้เทคโนโลยีเข้าช่วยในการรับทำความสะอาดบ้าน โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดอย่างเช่นเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติ หรือเครื่องฉีดน้ำและถูในการทำความสะอาดพื้น  เป็นต้น


3. เทรนด์การทำความสะอาดแบบรักษ์สุขภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การทำความสะอาดแบบรักษ์สุขภาพ เป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่ก่อให้เกิดสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น การใช้เบกกิ้งโซดา น้ำส้มสายชู น้ำยาล้างจานที่เป็นธรรมชาติ เป็นต้น

ตัวอย่างง่ายๆ อาจจะเป็นเทรนด์การใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ทำความสะอาดได้หลากหลายพื้นผิว เช่น พื้น ผนัง ห้องน้ำ ครัว เป็นต้น มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคและดับกลิ่นได้เป็นอย่างดี จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพมากกว่าการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีสารเคมี อย่างไรก็ตามสำหรับบริการรับทำความสะอาดบ้านมืออาชีพ อาจเปลี่ยนไปใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบไร้สารเคมีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


4. เทรนด์การทำความสะอาดแบบมีส่วนร่วมด้วยกัน

การทำความสะอาดแบบมีส่วนร่วม เป็นการการปลูกฝังให้สมาชิกในครอบครัวมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดบ้าน ช่วยให้ทุกคนมีวินัยในการทำความสะอาดและสร้างบรรยากาศที่ดีในบ้าน การแบ่งหน้าที่ในการทำความสะอาดบ้านให้กับสมาชิกในครอบครัว เช่น เด็ก ๆ มีหน้าที่เก็บของเล่น ล้างจาน ผู้ใหญ่มีหน้าที่ทำความสะอาดห้องน้ำ ถูพื้น เป็นต้น จะช่วยให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดบ้าน และเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง

ทั้งนี้การสร้างวินัยให้สมาชิกในครอบครัวของคุณมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดบ้าน คุณอาจกำหนดตารางการทำความสะอาดสำหรับแต่ละคน หรืออาจให้แต่ละคนเลือกหน้าที่ในการทำความสะอาดที่ตนเองสนใจ เป็นต้น ทั้งในหลายๆครั้งการทำความสะอาดบ้านแบบนี้อาจยุ่งยากเพราะมันเป็นการสร้างวินัยใหม่ให้กับสมาชิกในบ้านดังนั้นหลายครั้งการใช้บริการรับทำความสะอาดบ้านอาจง่ายกว่า สะดวกกว่า และแน่นอนที่สุดคือมีประสิทธิภาพมากกว่า

เทรนด์ทำความสะอาดบ้านเหล่านี้ล้วนช่วยให้การทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนสมัยใหม่ที่เร่งรีบและใส่ใจสุขภาพ แต่แบบไหนดีที่สุด ?

เทรนด์ทำความสะอาดแบบใดก็ถูกใจ หากเลือกใช้บริการทำความสะอาดมืออาชีพ

บริการ ทำความ สะอาด

ในยุคสมัยที่ผู้คนมีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การเลือกวิธีทำความสะอาดบ้านที่ตอบโจทย์ก็เป็นเรื่องสำคัญ เทรนด์ทำความสะอาดบ้านที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีหลากหลายรูปแบบอย่างที่เราได้เห็นกัน

ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเลือกใช้บริการทำความสะอาดมืออาชีพ เทรนด์ทำความสะอาดแบบใดก็ถูกใจได้ เพราะผู้ให้บริการทำความสะอาดมืออาชีพมีทักษะและประสบการณ์ในการทำความสะอาดบ้านเป็นอย่างดี สามารถทำตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้บ้านสะอาดและน่าอยู่อยู่อย่างสม่ำเสมอ

13
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


14
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


15
บอร์ดโพสต์ฟรี ประกาศฟรี ทั่วไป / Doctor At Home: หูด (Warts)
« เมื่อ: วันที่ 7 สิงหาคม 2025, 14:50:13 น. »
Doctor At Home: หูด (Warts)

หูด เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้าย (benign) ของผิวหนัง เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในเด็กวัยเรียน ในผู้ใหญ่ก็เป็นได้ แต่จะพบได้น้อยในคนอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป

หูดมีหลายชนิด อาจมีขนาดแตกต่างกันไป ขึ้นกับตำแหน่งที่เป็น อาจขึ้นเดี่ยว ๆ หรือหลายอันก็ได้ มักขึ้นที่มือ เท้า ข้อศอก ข้อเข่า ใบหน้า ฝ่ามือฝ่าเท้า อาจขึ้นตามผิวหนังส่วนอื่น ๆ รวมทั้งที่อวัยวะเพศ

ส่วนมากจะยุบหายได้เองตามธรรมชาติ (แม้จะไม่ได้รับการรักษา) ภายหลังที่เป็นอยู่หลายเดือน บางรายอาจเป็นอยู่เป็นปี ๆ กว่าจะยุบหาย เมื่อหายแล้วอาจกลับเป็นใหม่ได้อีก

สำหรับหูดที่อวัยวะเพศขอแยกกล่าวไว้ใน "โรคหงอนไก่"

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เอชพีวี (HPV ซึ่งย่อมาจาก human papilloma virus) ซึ่งมีมากกว่า 70 ชนิด เมื่อเชื้อไวรัสแทรกซึมเข้าไปในเซลล์ผิวหนังก็จะเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นหูดงอกออกจากผิวหนังส่วนที่ปกติ

หูดสามารถติดต่อโดยการสัมผัสถูกคนที่เป็นหูดโดยตรง ผิวหนังที่มีบาดแผลหรือรอยถลอกจะติดเชื้อและกลายเป็นหูดได้ง่ายกว่าผิวที่ปกติ ระยะฟักตัว 2-18 เดือน

อาการ

หูดธรรมดา (common warts) จะมีลักษณะเป็นตุ่มกลมแข็ง ผิวหยาบ ออกเป็นสีเทา ๆ เหลือง ๆ หรือน้ำตาล ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-10 มม. มักจะขึ้นตรงบริเวณที่ถูกเสียดสีง่าย (เช่น นิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อศอก ข้อเข่า ใบหน้า หนังศีรษะ เป็นต้น) และอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย

หูดที่เป็นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า จะมีลักษณะเป็นไตแข็ง ๆ หยาบ ๆ แต่จะแบนราบเท่าระดับผิวหนังที่ปกติ เพราะมีแรงกดขณะเดินหรือใช้งาน ลักษณะคล้าย ๆ ตาปลา แต่จะแยกกันได้ตรงที่ถ้าใช้ใบมีดฝานหูดบริเวณผิวบน ๆ ของหูดจะเห็นมีจุดดำ ซึ่งเป็นจุดเลือดออกเก่า ๆ ที่แข็งตัวแล้ว

หูดที่เป็นติ่ง (filiform warts) จะมีลักษณะเป็นติ่งเนื้อแข็งยาวคล้ายนิ้วมือเล็ก ๆ ยื่นจากผิวหนัง มักขึ้นที่หนังตา ใบหน้า ลำคอ หรือริมฝีปาก

ภาวะแทรกซ้อน

หูดเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด นอกจากทำให้แลดูน่าเกลียดน่ารำคาญ หรืออาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเป็นปมด้อย ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง   

บางรายอาจมีอาการปวดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นหูดที่ฝ่าเท้า เวลาเดินลงน้ำหนักแรง ๆ อาจทำให้ปวดเดินไม่ถนัดได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยจากการตรวจพบรอยโรค และการนำตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ

การรักษาโดยแพทย์

ในรายที่มีอาการเล็กน้อย จะให้สังเกตดูอาการ บางรายอาจหายเองได้ภายใน 2 ปี แต่ก็อาจเกิดขึ้นใหม่ได้อีก

  ในรายที่มีอาการมาก รู้สึกรำคาญน่าเกลียด หรือเจ็บปวด แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. หูดที่ฝ่าเท้า ใช้ปลาสเตอร์ที่มีกรดซาลิไซลิกชนิด 40% ปิด โดยฝานหูดจนมีเลือดซิบ แล้วใช้ปลาสเตอร์ดังกล่าวปิด พอครบ 1 สัปดาห์ก็ทำการฝานหูดซ้ำอีกครั้ง แล้วปิดปลาสเตอร์ต่อไป ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์จนกว่าจะหาย หรืออาจใช้ยากัดตาปลาหรือหูดซึ่งมีกรดซาลิไซลิกผสมทาที่ตัวหูดทุกวัน ยาจะค่อย ๆ กัดเนื้อหูดให้หลุดออก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน

2. หูดที่เป็นติ่ง ให้พ่นด้วยยาชา แล้วใช้กรรไกรตัด หรือใช้ไฟฟ้าจี้และขูดออก (electrodessication)

3. หูดที่เป็นตุ่มหรือไตขนาดใหญ่ แพทย์จะทำการผ่าตัดและขูดออก (อาจใช้ไฟฟ้าจี้ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้) ซึ่งอาจใช้เวลา 4 สัปดาห์กว่าแผลจะหายดี หรือไม่ก็อาจรักษาโดยใช้กรดซาลิไซลิกชนิด 10% และกรดแล็กติกชนิด 10% ในคอลลอยเดียนเบสทา หรือทาด้วยกรดไตรคลอโรอะซิติก (trichloroacetic acid) ชนิด 30-50%

หรือใช้ไนโตรเจนเหลว (liquid nitrogen) หรือคาร์บอนไดออกไซด์แข็ง (solid CO2) ในการรักษาหูด โดยจี้ทุก ๆ 2 สัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน หรือใช้แสงเลเซอร์หรือเครื่องจี้ไฟฟ้าในการรักษา

ในรายที่ดื้อต่อการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว แพทย์อาจให้การรักษาโดยให้ผู้ป่วยกินไซเมทิดีนในขนาดสูง (30-40 มก./กก./วัน) ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน โดยให้นาน 6-8 สัปดาห์ จะช่วยให้หูดยุบหายหมดได้ประมาณร้อยละ 60-70

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น ผิวหนังมีตุ่มแข็งหรือมีติ่งเนื้อแข็งยื่นจากผิวหนัง หรือฝ่ามือฝ่าเท้ามีไตแข็ง ๆ หยาบ ๆ แต่แบนราบ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคหูด ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    หลังการรักษาแล้วหากมีอาการปวด แสบ คัน พุเป็นตุ่มน้ำ หรือบวมที่บริเวณรอยโรคไม่ทุเลา ใน 1-2 สัปดาห์
    มีหูดเกิดขึ้นใหม่

การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสถูกเนื้อหูดของผู้อื่น
    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว รองเท้า ถุงเท้า) ร่วมกับคนที่เป็นหูด
    ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อหูดไปบริเวณอื่นของร่างกาย โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือแกะเกาหูดของตัวเอง และเมื่อสัมผัสถูกหูดควรล้างมือด้วยน้ำกับสบู่เมื่อสัมผัสทันที
    หมั่นล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง และเปลี่ยนถุงเท้าที่ใส่ทุกวันเพื่อป้องกันหูดที่ฝ่าเท้า
    ระมัดระวังอย่าให้เกิดบาดแผลที่ผิวหนัง เช่น ระมัดระวังการโกนหนวด หลีกเลี่ยงการกัดแทะเล็บเป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อหูดเข้าทางบาดแผล
    หมั่นรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย กินอาหารครบ 5 หมู่ที่สมสัดส่วน  และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

ข้อแนะนำ

หูดเกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งสามารถติดต่อได้ง่ายโดยการสัมผัสและทางเพศสัมพันธ์ ไม่มีการรักษาที่จำเพาะ (ไม่มียาที่ทำลายเชื้อไวรัสกลุ่มนี้) ส่วนใหญ่มักเป็นไม่รุนแรง และหายได้เองภายใน 2 ปี แต่อาจเกิดขึ้นได้ใหม่ การรักษาสุขภาพให้มีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรงมีส่วนป้องกันและรักษาโรคนี้ได้ การรักษามุ่งที่ทำลายเนื้อหูดให้หมดไปด้วยวิธีต่าง ๆ ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้ตามสภาพของโรคที่เป็น และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

หน้า: [1] 2 3 ... 34